วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สารพันคําถามเรื่อง เซ็กส์ อยากรุ้ แต่ไม่กล้าถาม

 สารพันคำถามเรื่อง เซ็กส์ อยากรู้ แต่ไม่กล้าถาม
    เรื่องเซ็กส์ เรียนรู้กันไม่จบ เพราะแต่ละคนก็มีประสบการณ์กับคู่ของตนเองแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่า ลีลา ตามแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล คำถามยอดฮิตคงอยู่ที่ จะทำให้อย่างไร ให้คู่ของตนมีความสุขกับลีลารักให้มากที่สุด และอีก 2-3 คำถามที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ เสียงขณะร่วมรัก และเวลานานขนาดไหน จึงจะพอดีหลายคนมีคำถามอยู่ในใจ ขณะที่กำลังร่วมรักอยู่นั้น จะร้องครวญครางได้ไหม จะดีหรือเปล่า หรือว่าควรจะร่วมรักกันนานแค่ไหน ถึงจะไม่มากไป หรือน้อยไป มาติดตามคำตอบชวนคิดไปพร้อมๆ กัน และลองนึกถึงคู่ของคุณว่า เขาหรือเธอแสดงอารมณ์ ณ ขณะร่วมรักอย่างไร
เรื่อง เซ็กส์ อยากรู้ แต่ไม่กล้าถาม
Q: เปล่งเสียงแห่งความสุขได้ดังแค่ไหน ?
A: ช่วงที่กำลังร่วมรักกันอยู่นั้นจะบอกคนรักได้อย่างไร ว่าคุณกำลังมีความสุข ความพอใจกับรสสัมผัสลูบไล้ของเขา บางคนอาจมีคำถามอยู่ในใจว่าการร้องครวญครางนั้นถูกต้องหรือไม่ และคนอื่นๆ ที่นิ่งเงียบในขณะร่วมรักกันล่ะทำถูกหรือยังเส้นทางไปสู่จุดสุดยอดของการมี เซ็กส์แต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนจะร้องครวญคราง บางคนแค่หายใจแรง แต่จะมีความสุขสนุกสนานแบบไหนนั้นก็ไม่อาจจะรู้ได้ แต่การส่งเสียงร้องครวญครางดังแค่ไหนจึงจะเป็นเซ็กส์ ที่น่าพอใจล่ะ มีกฎง่ายๆ คือ คุณสามารถร้องครวญครางได้ดังที่สุดเท่าที่ฝาผนังของคุณจะกั้นเสียงไว้ได้ มันไม่ได้หมายความว่าการส่งเสียงร้องแสดงความสุขจากการร่วมรักให้คนอื่นได้ ยินจะเป็นสิ่งไม่ดี แต่ถ้าคุณปลดปล่อยเสียงดังให้ข้างบ้านได้ยินเป็นประจำสม่ำเสมอ ย่อมเป็นการรบกวนเพื่อนบ้านเป็นแน่ และอาจตกเป็นเป้าให้เพื่อนบ้านนินทาและซุบซิบกัน เพราะเรื่องเพศในสังคมไทยยังเป็นสิ่งที่ต้องสงวนไว้ เป็นเรื่องเฉพาะคนสองคนในห้องนอนเท่านั้น แต่ถ้าไม่มีเสียงร้องครวญครางเลยมันจะทำให้อารมณ์พิศวาสในขณะนั้นไม่เซ็กซี่ เพราะทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะรู้สึกปลาบปลื้มมากที่คู่ของตัวเองส่งเสียงบ่งบอกถึงความสุขที่กำลังได้รับอยู่
Q: ควรใช้เวลาร่วมรักนานเท่าไหร่ ?
A: ประโยคที่มักได้ยินบ่อยๆ เมื่อมีคนพยายามที่จะอธิบายถึงหญิงชายที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรักก็คือ “พวกเขามีรักกันตลอดคืน” แต่ก็ยังมีคำถามตามมาอีกว่า การร่วมรักนับจากเวลาไหน เมื่อไหร่จึงจะนับเวลา เริ่มจากจูบแรกจนกระทั่งถึงจุดสุดยอดหรือเปล่า หรือนับเวลาตั้งแต่ประสานเข้าเป็นเนื้อเดียวกันจนไปถึงจุดหมายปลายทางแห่ง อารมณ์พิศวาส
จากการศึกษาวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงต้องการเวลาในการร่วมรักนานกว่า ผู้ชายจึงจะไต่ถึงบันไดสวรรค์ เพราะผู้หญิงมีอารมณ์ละเอียดอ่อนกว่าผู้ชาย ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วว่าแค่เวลาสองสามนาทีไม่อาจทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอด ได้ ส่วนในกรณีที่ผู้ชายสามารถร่วมรักได้อย่างทนทาน จนคนรักสาวต้องขอร้องให้หยุดเพราะทนความเจ็บแสบไม่ได้ ผู้ชายแบบนี้ไม่ใช่ผู้ชายในฝัน เพราะมันเป็นการกระทำที่มากเกินกว่าที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้หญิง
ส่วนผู้ชายที่สงวนท่าทีและพยายามที่จะทำเกมรักให้ถูกต้อง จนกลายเป็นความยืดเยื้อยาวนานจนน่าเบื่อ ถ้าภายใน15 นาที เขายังไม่จูงมือสาวปีนป่ายขึ้นบันไดสวรรค์แล้วล่ะก็ อาจจะเอ้งเม้งอยู่บนพื้นโลกเท่านั้นก็เป็นได้ ดังนั้นการจะใช้เวลาร่วมรักกันนานแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของ หญิงชาย หากทั้งคู่มีความต้องการซึ่งกันและกันมาตลอดวันและอดกลั้นไว้จนถึงเวลาที่ ได้อยู่ร่วมกัน ความเร่าร้อนที่สะสมไว้ก็ไม่ต้องใช้เวลานานในการร่วมรัก เพราะอาจจะแค่ 5 นาทีก็ถึงจุดระเบิดเพลิงรักอย่างง่ายดาย
Q: ความรักต้องการเซ็กส์บ่อยแค่ไหน ?
A: ค่อนข้างหายากที่คู่สามีภรรยาจะมีเซ็กส์ด้วยกันตลอด เพราะเมื่ออยู่ด้วยกันนานๆ ก็ย่อมจืดชืดไปตามกาลเวลา แต่อย่าลืมว่ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่นอกเหนือจากการมีเซ็กส์ การตะกายอยู่บนที่นอนด้วยกันไม่อาจพิสูจน์ความรักได้ที่สำคัญก็คือ คู่สมรสควรมีความสุขในการร่วมรักได้บ่อยครั้งอย่างที่ต้องการ และเกิดขึ้นเองด้วยความเต็มใจโดยไม่มีการบังคับ แต่ถ้าทั้งคู่ไม่ได้หลับนอนด้วยกันเลย ก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ของชีวิตคู่คลอนแคลนเสียแล้ว และยังมีปัญหาที่แก้ไม่ได้ หรือกำลังอยู่ในขั้นตริตรองว่ายังมีความรักเพียงพอที่จะประสานใจให้อยู่ด้วย กันต่อไปอย่างยาวนานหรือไม่ ถ้าตัวคุณและคู่รักมีความสุขดีกับชีวิตรัก ก็สามารถร่วมรักกันได้บ่อยอย่างที่ต้องการ และเปล่งเสียงแห่งความสุขออกมาเถอะอย่าไปสะกดกลั้นไว้
Q: การแสดงออกของชายคนรัก บ่งบอกว่าเขาเป็นอย่างไร ?
A: การถอนหายใจ ทุกสัมผัสก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน จนต้องหายใจหนักๆ เป็นเพราะว่าเขากำลังมีความสุขอย่าง เงียบๆ เขาเป็นคนรักที่อ่อนไหวและมีอารมณ์ร่วมการร้องครวญคราง เขาแสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างเต็มที่ เซ็กส์ ไม่ได้เป็นแค่สิ่งสวยงามข้างกายเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการเสพสุขในชีวิตอีกด้วย กับผู้ชายแบบนี้คุณจะได้ประสบกับเซ็กส์ในรูปแบบใหม่ๆ การพูด ข้อสังเกตเล็กน้อยสำหรับผู้ชายแบบนี้ก็คือเขาชอบเล่น ผาดโผนกับคู่รัก เขาเป็นนักรักที่เต็มไปด้วยจินตนาการที่สามารถทำให้คุณหัวเราะได้ เรื่องเซ็กส์ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย หมั่นพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับคู่รักของคุณบ่อยๆ จะทำให้ทั้งคุณและคนรักของคุณ สุขสมกันทั้งสองฝ่าย วิน-วินกันทั้งคู่ไงหละ
เรียบเรียงโดย… Women Mthai Team
 ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก… sex.zupzip

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รุ้ทันเครื่องดื่มแก้วโปรด

 รู้ทันเครื่องดื่มแก้วโปรด
 

ชา ไม่ว่าจะเป็นชาขาว ดำ แดง หรือเขียว ล้วนมีสารต้านอนุมูลอิสระ “คาเทชิน” ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็งบางชนิด และช่วยเพิ่มภูมต้านทาน โดยเฉพาะในชาขาวจะมีสารชนิดนี้มากที่สุด อย่างไรก็ดี สารนี้จะสลายตัวไปเมื่อชาแก้วนั้นถูกเติมนม น้ำผึ้ง และน้ำตาล

กาแฟ
 
กาแฟดำ 1 แก้วให้แคลอรีตั้งต้นที่ 2 หน่วย ในขณะที่แฟรปปูซิโนแก้วโตเพิ่มวิปครีมให้พลังงาน 380 กิโลแคลอรี ข้อดีของกาแฟนอกจากทำให้คุณสดชื่นยามบ่าย ยังมีงานวิจัยว่า การดื่มกาแฟนอกจากทำให้คุณสดชื่นยามบ่าย ยังมีงานวิจัยว่า การดื่มกาแฟไม่เกินวันละ 2 แก้วช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานประเภทสอง พาร์กิมสัน นิ่วในถุงน้ำดี และมะเร็งบางชนิดได้ ส่วนกาแฟดีแคฟก็ให้ประโยชน์เช่นกัน แถมเหมาะกับผู้ที่แพ้คาเฟอีนด้วย

นม
 นมสดเย็นๆ 8 ออนซ์ให้แคลเซียมสูงถึง 300 มิลลิกรัม โปรตีน 8 กรัมพร้อมด้วยวิตามินเอและดี ซึ่งดีต่อกระดูกและฟัน นมสดธรรมดาหนึ่งแก้วให้พลังงาน 146 กิโลแคลอรี นมพร่องมันเนย 102 กิโลแคลอรี นมขาดมันเนย 86 กิโลแคลอรีส่วนนมถั่วเหลืองให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี

น้ำอัดลม
 นอกจากให้ความสดชื่นและพลังงานแล้ว น้ำหวานซาบซ่านี้ไม่มีประโยชน์ใดๆเลย ซ้ำพาโรคอ้วน เอาหวานประเภทสอง และกระดูกพรุนมาอีกด้วย ส่วนชนิดไดเอดก็ไม่ต่างกัน เพราะความหวานจากแอสปาแทมอาจไปทำลายระบบประสาท ระบบเผาผลาญ และการทำงานของหัวใจ

เบียร์
 
ก็เหมือนเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทั่วไป ที่ช่วยให้เลือกลมสูบฉีด หัวใจทำงานหนักขึ้น เบียร์แต่ละแก้วอุดมไปด้วยพลังงานที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นแป้งระหว่าง 100 – 241 กิโลแคลลอรี ขึ้นอยู่กับชนิดของเบียร์ แต่ก็ยังมีประโยชน์หากจิบวันละนิด จะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งและกระดูกพรุน ส่วนเรื่องรอบเอวไม่รับประกันครับ

นิตยสาร HEALTH CUISNE

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ห๊า ! ปัญหาสูขภาพและโรคร้าย อาจมาจากเจ้านายขี้จุ้จี้


ห๊า ! ปัญหาสุขภาพและโรคร้าย อาจมาจากเจ้านายขี้จู้จี้

ห๊า ! ปัญหาสุขภาพและโรคร้าย อาจมาจากเจ้านายขี้จู้จี้


เคล็ดลับสุขภาพ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
           
          ถ้าจะบอกว่าการทำงานอย่างหนัก เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเกิดความเครียดได้ไม่น้อย เชื่อว่าหลายคนคงรีบพยักหน้าเห็นด้วยจนคอแทบหักแน่ ๆ แต่ก็อาจจะมีเสียงเล็ก ๆ แย้งขึ้นมาบ้างก็ได้ว่า งานหนักไม่ยั่น แต่หากต้องเจอเจ้านายจู้จี้ขี้บ่นเห็นทีจะไม่ไหว ซึ่งเราก็เห็นด้วยค่ะ และเรายังมีข้อมูลที่ถ้าคุณ ๆ รู้แล้วต้องร้องจ๊ากแถมให้อีกต่างหาก ก็จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง เพราะเว็บไซต์ Daily Mail เขาได้นำข้อมูลวิจัยมายืนยันสำทับไว้ว่า หากทนทำงานกับเจ้านายขี้จู้จี้นาน ๆ เข้า รับรองว่างานนี้ได้ล้มหมอนนอนเสื่อด้วยโรคร้ายแน่ ๆ เลย

          เพียง แค่เราต้องทำงานกับเจ้านายที่แสนดุ และจู้จี้จุกจิกมาก ๆ ก็ก่อให้เกิดความเครียดในระดับ 10 แล้วล่ะเนอะ แถมบรรยากาศในการทำงานยังดูไม่สดใสเอาซะเลยอีกต่างหาก แต่ล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไอโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ยังมาเผยผลวิจัยให้ช้ำหนักเข้าไปอีกว่า การทำงานกับเจ้านายสุดเฮี้ยบ ที่ชอบกดดันลูกน้องเป็นประจำ จะทำให้คุณมีความเครียดในระดับที่สูงเว่อร์ และความเครียดที่ว่า ก็มากพอจะเปลี่ยนแปลงระบบการทำงาน และเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งความปรวนแปรนี้ จะทำให้เซลล์ในร่างกาย เตรียมพร้อมต่อต้านเชื้อโรคอยู่ตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเชื้อโรคตัวใดให้จัดการเลย จนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการอักเสบขึ้นในร่างกายจริง ๆ ซะอย่างนั้น

        
เคล็ดลับสุขภาพ

  
          แต่ที่น่าตกใจก็คือ อาการอักเสบที่เกิดจากความปรวนแปรของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ และโรคร้ายมากมาย แถมหนึ่งในนั้นยังมีโรคหัวใจ รวมทั้งเบาหวานด้วยนะคะ เห็นไหมล่ะว่า ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยทีเดียว
           
          ความ เครียดเป็นเรื่องที่ไม่ดีสำหรับเราเลยจริง ๆ เนอะ ซึ่งหากเป็นไปได้ ก็คงไม่มีใครอยากรู้สึกเครีอยดแน่นอน แต่สำหรับคนที่เลี่ยงไม่ได้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้คุณเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง และหาเวลาว่างไปผ่อนคลายความเครียด ด้วยการออกกำลัง เพื่อให้สมองและระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้ปรับสมดุลบ้าง อีกทั้งพยายามมองหาโอกาส หรือกิจกรรมคลายเครียดที่ได้ผลดีกับตัวคุณเองมาไว้ใช้ด้วยก็ดีนะจ๊ะ

สยามครองแชมป์ที่ดินแพงสุดในประเทศ

สยามครองแชมป์ที่ดินแพงสุดในประเทศ

รวย..แต่ไม่กล้าใช้เงิน

รวย..แต่ไม่กล้าใช้เงิน

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

7 สัตว์ยุดดึกดําบรรพ์สุดแปลก

7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก


teen.mthai เชื่อเลยว่าคงไม่มีใครไม่เคยดูภาพยนต์เรื่อง Jurassic Park ในหนังเรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์มากมาย ที่หน้าตาและรูปร่างแปลกประหลาดจากในปัจจุบันมาก สัตว์หลายพันธุ์ หลายชนิต่างก็มีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปตามธรรมชาติและสภาพแวดล้อม บางชนิดก็สูญพันธุ์ไปบ้าง วันนี้ทีนเอ็มไทยมี  7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก มาฝากเพื่อนๆ กันคะ ลองไปดูกันซิว่ามันจะแปลกสมชื่อรึเปล่า ^^

7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก

7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaie0193fca5c_80292700_o2
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก
Platybelodons
ที่มาภาพ Prehistoric Blog 

1. Platybelodons

สายพันธุ์สัตว์โบราณที่ใกล้เคียงกับช้างไม่ได้มีแต่ช้างแมมมอธเท่านั้น เมื่อประมาณ 10 ล้านปีที่แล้ว ในสมัยที่สัตว์ต่างๆ ยังอยู่ในช่วงวิวัฒนาการไม่สุด มีช้างแบบแปลกๆ อีกชนิดที่หน้าตาดูเหมือนธรรมชาติยังสร้างไม่เสร็จดีอยู่ชื่อว่า Platybelodons
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaielephant
ขากรรไกรล่างของ Platybelodons ที่เหมือนพลั่วไม่มีผิด
นักชีววิทยาสัตว์โบราณถกเถียงกันมานานแล้วว่า เหตุใดธรรมชาติจึงสร้างให้สัตว์ชนิดนี้มีหน้าตา(อัปลักษณ์)เช่นนี้ บางคนก็เชื่อว่าปากแบนๆ ที่เหมือนกับพลั่วนี้น่าจะใช้ในการช้อนพืชน้ำขึ้นมากิน ในขณะที่อีกหลายคนเชื่อว่าปากนี้เอาไว้คาบกิ่งไม้แล้วใช้ฟันล่างที่เหมือน กับเลื่อย เลื่อยกิ่งต้นไม้ออก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ธรรมชาติคงเห็นแล้วว่าปากแบบนี้คงไม่เหมาะกับช้างเท่าไหร่ ช้างสายพันธุ์นี้จึงสูญพันธุ์ไปและเหลือเพียงแต่ช้างแบบที่เราเห็นใน ปัจจุบันเท่านั้น

7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaiMeganeura3

2. Meganeura

Meganeura เป็นแมลงที่คล้ายๆ กับแมลงปอแต่ตัวใหญ่กว่ากันมาก เมื่อกางปีกแล้วตัวจะกว้างถึง 2 ฟุตเลยทีเดียว มันอาศัยอยู่เมื่อประมาณ 300 ล้านปีก่อน และถือเป็นแมลงนักล่าบินได้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และแน่นอน ที่ว่าเป็นสัตว์นักล่าก็เพราะนอกจากกินแมลงอื่นแล้ว มันกินเนื้อเป็นอาหารด้วย
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสาเหตุที่มันสูญพันธุ์ไปก็เนื่องมาจากขนาดที่ใหญ่ เกินไปทำให้ต้องใช้ออกซิเจนในการหายใจมาก และเมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปมันก็เลยอาศัยอยู่ไม่ได้และสูญพันธุ์ไป ซึ่งน่าจะเป็นโชคดีของเรา เพราะถ้ามันยังอยู่จนถึงทุกวันนี้เราอาจจะมีแมลงตัวใหญ่ยักษ์ที่คอยจ้องจะ กินหัวอยู่ตลอดเวลาก็เป็นได้
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthai1302756369
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก
Odontochelys Semitestacea
ที่มาภาพ memozee

3. Odontochelys Semitestacea

นี่เป็นหนึ่งในสัตว์ที่ดูเหมือนธรรมชาติจะขี้เกียจสั่งให้วิวัฒนาการมากที่สุด เมื่อประมาณ 220 ล้านปีก่อน เต่า Odontochelys semitestacea หน้า ตาเหมือนกับเต่าปัจจุบันไม่มีผิด แต่ด้วยความที่มันไม่มีกระดองทำให้มันเป็นเหยื่ออันโอชะของเหล่านักล่าใต้ น้ำ เพื่อเป็นการป้องกันตัว มันจึงวิวัฒนาการบริเวณส่วนท้องให้กลายเป็นกระดองแข็งๆ เพราะสัตว์นักล่าที่อยู่ในน้ำลึกส่วนมากจะโจมตีจากด้านล่างขึ้นมา แต่ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปสัตว์นักล่าเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเต่ามีกระดองแข็งตรงท้อง จึงเปลี่ยนวิธีมาโจมตีเต่าจากทางด้านบนแทน ทำให้ยังไงมันก็ถูกจับกินอยู่ดี
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaiturtle
กระดองของเต่าปัจจุบันพัฒนามาจากกระดูกหลังที่รวมเข้ากับกระดูกซี่โครง
ที่มาภาพ all-about-reptiles , memozee
อย่างไรก็ตาม ฟอสซิลของ Odontochelys semitestacea ก็ช่วยทำให้นักชีววิทยาสัตว์โบราณรู้ได้ว่าเต่าพัฒนากระดองขึ้นมาได้อย่างไร จากตอนแรกที่เข้าใจกันว่ากระดองวิวัฒนาการมาจากผิวหนัง ตอนนี้จากหลักฐานฟอสซิลที่มีอยู่ก็ทำให้รู้ว่ากระดองน่าจะพัฒนามาจากกระดูก หลังและกระดูกซี่โครงที่รวมเข้าด้วยกันมากกว่า
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก
Carcharocles Megalodon
ที่มาภาพ Carnivora

4. Carcharocles Megalodon

ฉลามใหญ่ที่สุดในปัจจุบันนี้ก็คือ ฉลามวาฬ ซึ่งชื่อฟังดูน่ากลัวแต่จริงๆ แล้วมันคือยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเลที่กินแต่สัตว์เล็กๆ อย่างแพลงก์ตอนเป็นอาหารและไม่ทำอันตรายใครเท่าไหร่ แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 1.5 – 3 ล้านปีที่แล้ว ฉลามใหญ่ที่สุดแห่งท้องทะเลMegalodon ไม่มีความน่ารัก ใจดีเหมือนฉลามวาฬเลยสักนิด
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaimegb
ขากรรไกรของ Megalodon
ที่มาภาพ Carnivora
ด้วยขนาดตัวประมาณ 70 ฟุต (20 เมตร)  ทำให้ Carcharocles Megalodon เป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ใหญ่ขนาดที่กลืนรถเก๋งทั้งคันได้สบายๆ และที่ทำให้มันน่ากลัวกว่าขนาดอันใหญ่โตก็คือความจริงที่ว่ามันกินเนื้อเป็น อาหาร และเป็นสัตว์นักล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในท้องทะเล และต้องขอบคุณธรรมชาติอีกครั้งที่ฉลามสายพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว เพราะแค่ทุกวันนี้ฉลามธรรมดาก็ทำเอามนุษย์อย่างเรากลัวหัวหดกันหมดแล้ว ถ้าตัวใหญ่ขนาดนี้อีกคงไม่มีใครกล้าลงทะเลแน่ๆ
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthai681px-Odobenocetops1
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก : Odobenocetops
ที่มาภาพ Wikipedia
5. Odobenocetops
ที่มาภาพ Wikipedia
นี่คือตัวอย่างของสัตว์โบราณที่ดูเหมือนเกิดจากการนำเอาสัตว์สองชนิดมารวมเข้าด้วยกัน Odobenocetops มี ชีวิตอยู่เมื่อ 3.5 ล้านปีก่อน ถึงจะหน้าตาเป็นแบบนี้แต่ความจริงแล้วมันเป็นสัตว์จำพวกวาฬที่ดันไปมีหน้า เหมือนกับสิงโตทะเล ออกมาเป็นสัตว์ที่ดูคล้ายๆ กับพะยูนได้อย่างไรไม่รู้
Odobenocetops น่าจะเป็นสัตว์ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เพราะว่ามันมีชีวิตอยู่ในช่วงเดียวกับฉลาม Megalodon (จาก ในหัวข้อด้านบน) อาวุธป้องกันตัวที่มันพอจะมีก็คือเขี้ยวสองข้าง ที่อาจจะยาวได้ถึง 3 เมตร แต่กลับใช้ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าเขี้ยวนี้เปราะบางมาก และอาหารของมันก็คือพวกหอยกับหนอนทะเลที่อาศัยอยู่ก้นมหาสมุทร แค่ดูหน้าเศร้าๆ ของมันก็รู้สึกสงสารแล้ว
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaiimage0121
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก : Helicoprion
6. Helicoprion
Helicoprion ก็คือฉลามเมื่อ 250 ล้านปีก่อน ซึ่งขากรรไกรล่างมีลักษณะยาว ม้วนได้ และมีฟันแหลมคมเหมือนกับใบเลื่อย จริงๆ แล้วนักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าหน้าตาจริงๆ ของฉลามสายพันธุ์นี้เป็นยังไงกันแน่ เพราะเนื่องมาจากกระดูกของฉลามส่วนมากเป็นกระดูกอ่อน จึงยังไม่มีใครเจอหลักฐานที่ทำให้รู้หน้าตามันได้อย่างแน่ชัด ดังนั้นจากหลักฐานเท่าที่มีอยู่ก็เลยสร้างแบบจำลองฉลาม Helicoprion ได้ออกมาอย่างที่เห็น (ในตอนแรกนักวิทยาศาสตร์นึกว่าขากรรไกรของมันคือฟอสซิลหอยโบราณด้วยซ้ำ)
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaiHelicoprion_Bessonovi2-660x563
ขากรรไกรของ Helicoprion ที่ตอนแรก
นักวิทยาศาสตร์เข้าใจผิดว่าเป็นฟอสซิลหอย
ที่มาภาพ Wired
จนถึงตอนนี้ นักชีววิทยาสัตว์โบราณก็ยังพยายามคิดว่าฉลามสายพันธุ์นี้กินอาหารได้อย่างไร ก็แน่ด้วยปากประหลาดๆ แบบนี้ เลยมีทฤษฎีว่า ฉลาม Helicoprion  อาจจะใช้ขากรรไกรที่ยื่นได้นี้เหมือนกับเป็นแส้หนามพุ่งออกไปพันตัวเหยื่อ แล้วลากมาเข้าปาก แต่ก็ยังไม่เข้าใจกันอยู่ดีว่าแล้วมันจะมีขากรรไกรแบบนี้เอาไว้ทำไมในเมื่อ เอามาใช้เคี้ยวอาหารไม่ได้ นี่จึงเป็นสาเหตุให้แบบจำลองฉลามพันธุ์นี้มีหลากหลายแบบตามจินตนาการของคน สร้าง
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaiHelicoprion_bessonovi1DB
ล่าสุดเชื่อกันว่าขากรรไกรม้วนๆ ของ Helicoprion น่าจะเป็นดังรูปนี้
ที่มาภาพ Wikipedia
ในตอนแรก มีการเดากันว่า ปกติแล้วฉลามจะม้วนขากรรไกรล่างนี้เก็บไว้ข้างล่าง(แบบรูปแรกสุด) แต่ข้อสันนิษฐานล่าสุดคือ ฉลามน่าจะม้วนขากรรไกรที่มีฟันแหลมๆ นี้เก็บไว้ในปากตัวเองมากกว่า ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง ไม่รู้จะนึกภาพตามยังไงดี
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก teen.mthaiKaprosuchus-saharicus
7 สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์สุดแปลก : Kaprosuchus saharicus
ที่มาภาพ Prehistoric Animals
7. Kaprosuchus saharicus
จระเข้เป็นสัตว์นักล่าน่ากลัวอีกชนิดหนึ่งแต่เฉพาะเวลาที่อยู่ในน้ำเท่า นั้น ถ้าขึ้นบกมาเมื่อไหร่มันก็จะกลายเป็นแค่สัตว์ตัวใหญ่ เดินเอื่อยๆ ที่มีฟันแหลมแต่วิ่งไล่ใครไม่ค่อยทันเท่านั้น (ถ้าไม่เข้าใกล้เกินไปนะ) แต่ไม่ใช่กับจระเข้ Kaprosuchus saharicus ที่อาศัยอยู่เมื่อ 100 ล้านปีก่อนแน่ๆ
Kaprosuchus saharicus น่าจะเป็นจุดสุดยอดของวิวัฒนาการจระเข้ มันเป็นสัตว์นักล่าที่ได้เปรียบเกือบทุกอย่าง ด้วยขายาวแบบไดโนเสาร์ ทำให้นอกจากมันจะว่ายน้ำได้แล้วมันยังวิ่งได้อีกด้วย ขาดแต่บินไม่ได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น ทั้งๆ ที่มันเป็นสัตว์นักล่าไร้เทียมทานแต่เมื่อเข้าสู่ยุคน้ำแข็งมันก็สูญพันธุ์ ไป ซึ่งอาจจะเป็นโชคดีของเราก็ได้ที่ปัจจุบันเหลือแต่จระเข้ขาสั้นๆ แบบที่เรารู้จักเท่านั้น ไม่อย่างนั้นนึกไม่ออกเลยว่าเราจะวิ่งหนีจระเข้แบบนี้ยังไง
ที่มา Cracked , Cracked2

ผวาหนี้ครัวเรือน แบงก์เช็คเครดิตถี่ยิบ

ผวาหนี้ครัวเรือน แบงก์เช็คเครดิตถี่ยิบ

หุ้นกับการวางแผนเกษียณอายุ

หุ้นกับการวางแผนเกษียณอายุ

เผยรายชื่อ 20 เกาะส่วนตัว ที่รอให้คุณเป็นเจ้าของ

เผยรายชื่อ 20 เกาะส่วนตัว ที่รอให้คุณเป็นเจ้าของ

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ภาพภูเขาไฟคูลุดระเบิด ในอินโดนีเซีย เสียชีวิต2ศพ

ภาพภูเขาไฟคูลุดระเบิด ในอินโดนีเซีย เสียชีวิต2ศพ

รวมข่าวแปลกประจำสัปดาห์ (14 ก.พ.)

รวมข่าวแปลกประจำสัปดาห์ (14 ก.พ.)

รวมเรื่องน่ารู้จากทั่วโลก เดือนกุมภาพันธ์ 2557

รวมเรื่องน่ารู้จากทั่วโลก เดือนกุมภาพันธ์ 2557

10 นางร้ายหน้าเป๊ะ สวยแย่งซีน

10 นางร้ายหน้าเป๊ะ สวยแย่งซีน

แยกร่าง! ภาพถ่ายสุดล้ำจากโอลิมปิกฤดูหนาว

แยกร่าง! ภาพถ่ายสุดล้ำจากโอลิมปิกฤดูหนาว

ประมวลภาพปิดสนามมวยลุมพินี ตำนานสังเวียนมวยไทย

ประมวลภาพปิดสนามมวยลุมพินี ตำนานสังเวียนมวยไทย