วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

อหิวาต์เทืยม เชื้อแฝงในเลือดไก่ พาป่วยอาหารเป็นพิษ


    ข้าวมันไก่
    ข้าวมันไก่ อาจปนเปื้อนอหิวาต์เทียม ถ้าเลือดไก่ไม่สุก
     

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

              อหิวาต์เทียม คือ เชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่พบได้ในอาหารทะเล แต่ล่าสุดกลับพบการปนเปื้อนในเลือดไก่ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวมันไก่ ถือเป็นครั้งแรกของโลก งั้นต้องระวังกันหน่อยแล้ว

              เรื่องไก่ ๆ กลายเป็นปัญหาปากท้องของคนเดินดินกินข้าวแกงซะอย่างนั้น เมื่อเมนูที่หาซื้อง่ายตามท้องถนนหนทางอย่าง "ข้าวมันไก่" เป็นตัวการที่ทำให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือป่วยด้วยอาการท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน อาหารเป็นพิษ ซึ่งภายหลังกระทรวงสาธารณสุขตรวจพบว่า "เชื้ออหิวาต์เทียม" ในเลือดไก่ดิบที่เสิร์ฟมากับจานข้าวมันไก่นั่นเอง

              ฟังอย่างนี้แล้ว คนที่ชอบทานข้าวมันไก่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป เพราะจริง ๆ แล้ว เรายังสามารถทานข้าวมันไก่ได้ แต่ต้องตรวจสอบสักนิด ก่อนอื่นต้องไปทำความรู้จักกับ "อหิวาต์เทียม" กันหน่อย

     อหิวาต์เทียม คืออะไร?

              เชื้ออหิวาต์เทียม หรือเชื้อวิบริโอ พาราฮิโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับอหิวาตกโรค แต่เป็นคนละสายพันธุ์ และมีความรุนแรงน้อยกว่ามาก ชอบอาศัยอยู่ในน้ำทะเลและน้ำกร่อย จึงมักพบเชื้อนี้ในอาหารทะเลหลายชนิด เช่น ปู กุ้ง หอยแมลงภู่ หอยแครงที่ลวกไม่สุก และก็เป็นคำตอบที่ว่าทำไมหลายคนทานอาหารทะเลที่ปรุงไม่สุกแล้วถึงมีอาการอาหารเป็นพิษ เพราะฤทธิ์ของแบคทีเรียชนิดนี้จะไปทำให้ทางเดินอาหารอักเสบนั่นเอง

              และอย่างที่บอกว่า เชื้ออหิวาต์เทียมนี้มักพบในอาหารทะเล ดังนั้นการพบเชื้ออหิวาต์เทียมในเลือดไก่ที่ถือเป็นครั้งแรกของโลก จึงสร้างความฉงนให้วงการแพทย์มากทีเดียว และต้องตรวจสอบต่อไปว่า เชื้ออหิวาต์เทียมไปปนเปื้อนในเลือดไก่ได้อย่างไรกัน? โดยคาดว่าต้นตอการปนเปื้อนมาจากโรงงานเชือดไก่ในพื้นที่ที่ระบาด 

     อาการป่วยจากเชื้ออหิวาต์เทียม รุนแรงแค่ไหน?

              เมื่อติดเชื้ออหิวาต์เทียมแล้ว คนนั้นจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องร่วง บางคนก็เป็นไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร แต่ก็สามารถหายได้เองภายใน 3 วัน และมีอัตราการเสียชีวิตต่ำคือ น้อยกว่า 1 ต่อ 1,000 


     ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ รักษาอย่างไร?

              หากมีอาการอาหารเป็นพิษเกิดขึ้น กรมควบคุมโรคก็แนะนำให้ดูแลผู้ป่วยดังนี้

               1. ให้สารละลายเกลือแร่โอ อาร์ เอส รวมทั้งดื่มน้ำมากกว่าปกติ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ 

               2. ให้ทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือน้ำข้าว หรือแกงจืด แต่ห้ามงดอาหาร 

               3. หากผู้ป่วยเป็นเด็กทารก สามารถให้นมแม่ได้ แต่หากเด็กดื่มนมผสมให้ผสมเหมือนเดิม แต่ลดปริมาณลง และให้สลับกับสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร 

               4. ไม่ควรกินยาเพื่อให้หยุดถ่าย เพราะจะทำให้เชื้อโรคค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งจะเป็นอันตรายมากขึ้น

              โดยปกติแล้วอาการจะดีขึ้นได้เอง แต่ถ้า 3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น ขอให้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือแพทย์ทันที โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422


    ข้าวมันไก่


     ไม่ต้องตกใจ ! เลือดไก่-ข้าวมันไก่ ยังกินได้

              แม้จะมีการพบว่าเชื้ออหิวาต์เทียมปนมากับเลือดไก่ แต่กรมควบคุมโรคก็ยืนยันว่า ยังสามารถทานข้าวมันไก่ และเลือดไก่ได้ เพียงแต่ต้องปรุงเลือดไก่ให้สุกซ้ำด้วยความร้อนตั้งแต่ 75 องศาเซลเซียส นานเป็นเวลา 15 นาที หรือปรุงให้เดือดที่ 100 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเชื้ออหิวาต์เทียมให้ตายได้ 100% วิธีดูว่าเลือดไก่ปรุงสุกหรือยังก็คือ หากเลือดไก่มีสีเข้ม เนื้อแข็ง แสดงว่าสุกแล้ว จะต่างกับเลือดไก่ที่ยังไม่สุกดีซึ่งจะมีสีแดง ๆ มีกลิ่นคาวและเนื้อนิ่้ม

              นอกจากนี้ ต้องฝากไปร้านข้าวมันไก่ด้วยว่า ต้องนำเลือดไก่ที่ซื้อมาไปต้มสุกซ้ำ เพื่อฆ่าเชื้ออหิวาต์เทียม ขณะเดียวกันคนขายอาหารต้องรักษาความสะอาดและสุขอนามัยในการปรุงอาหารด้วย โดยการใส่ถุงมือพลาสติกสับไก่ แยกเขียงกับมีดสำหรับหั่นเลือดไก่ต่างหาก อย่าใช้เขียงและมีดเล่มเดียวกับการหั่นผัก หรือประกอบอาหารชนิดอื่น ๆ กรณีมือเป็นแผล ไม่ควรสับไก่ขาย 

              ขณะที่ นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา หรือ หมอแมว เจ้าของเพจ "ความรู้สนุก ๆ แบบหมอแมว" ก็ได้แชร์ข้อมูลที่น่าสนใจว่า นอกจากเชื้ออหิวาต์เทียมแล้ว ในข้าวมันไก่ยังมีเชื้อโรคอื่น ๆ ปนเปื้อนได้อีก หากปรุงไม่สุก สะอาด เช่น 

               ในเนื้อไก่ที่ปรุงสุกไม่ดีอาจเจอเชื้อ Salmonella Campylobacter Vibrio (ทั้ง 3 ชนิด) และเชื้ออีโคไล 

               ในข้าวอาจเจอเชื้อ S.Aureus B.Cerues ได้ จากการที่นำน้ำต้มไก่ไปหุงข้าว หรือเอามือเปล่าไปจับไก่แล้วไปตักข้าว 

               ในแตงกวาก็อาจเจอเชื้อโรคได้เช่นกัน ถ้ามีดและเขียงที่ใช้หั่นแตงกวากับเนื้อไก่เป็นเขียงเดียวกัน


              อย่างไรก็ตาม หากจะทานข้าวมันไก่ คุณหมอแมว ก็แนะนำว่าต้องเลือกให้ดี เพื่อป้องกันเชื้อโรคเหล่านี้ คือ

               1. ร้านไหนมีประวัติว่าคนกินท้องเสียบ่อย อย่าไปกิน 

               2. ข้าวมันไก่เหมาะกับการกินร้อน ๆ ทำเดี๋ยวนั้น กินเดี๋ยวนั้น เลี่ยงการทานข้าวมันไก่บรรจุกล่อง 

               3. เลือดไก่ ไม่ควรกิน ถ้าจะกินต้องร้อน ๆ (การทำเลือดไก่ เราไม่รู้ว่าทำแบบใส่สารทำให้แข็งหรือใช้ความร้อน)

               4. ร้านไหนใช้เขียงรวม หั่นไก่ หั่นแตงกวา การคดตักข้าวทำสลับกับการหั่นไก่ที่ไม่ร้อน โดยไม่ได้มีการใช้ถุงมือหรือล้างมือ อย่ากิน 

               5. ร้านไหนเจ้าของร้านบอกว่ากิน ๆ ไปเถอะ อย่าอนามัยจัด อย่าไปกิน (เพราะเชื้อ Salmonella ตกค้างในร่างกายได้ ถ้าเจ้าของร้านไม่สนใจสุขอนามัยยิ่งต้องระวัง)


              สรุปก็คือ ทานข้าวมันไก่ได้ แต่ต้องเลือกทานร้านที่สะอาด ปลอดภัย เพื่อที่จะได้ไม่เกิดอาการป่วยใด ๆ ตามมา

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

ลดนํ้าหนัก ด้วยอาหาร 20 อย่างที่สาวๆทานแล้วไม่ต้องกลัวอ้วน


    ลดน้ำหนัก
    อาหาร 20 อย่างที่สาว ๆ ลดน้ำหนักทานได้ไม่ต้องกลัวอ้วน มาดูกันเลย
    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

              ลดน้ำหนัก ด้วยวิธีควบคุมอาหาร ทานได้ไม่ต้องอด แต่จะมีอาหารชนิดใดบ้างที่เหมาะกับสาว ๆ ที่กำลังไดเอท ทานแล้วไม่ต้องกลัวว่าน้ำหนักจะเพิ่ม รู้แล้วเอาไปครีเอทเป็นเมนูเก๋ ๆ รับประทานให้สบายใจกันเลย

              เป็นธรรมดาของสาว  ๆ ที่กำลังไดเอทหรือตั้งใจลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะกินอะไรก็ต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่ากินแล้วจะอ้วนไหม ? น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นไหม ? จนอาจทำให้ความสุขในการรับประทานอาหารหมดไป เหลือแต่ความกังวลใจที่อาจพาลทำให้ไม่อยากอาหารจนทำให้ร่างกายอ่อนเพลียเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไปซะอย่างนั้น ไม่เอาค่ะคุณสาว ๆ เปลี่ยนความคิดเสียตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ เพราะการที่เราจะผอมได้นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องอดอาหารเสมอไป มาเปลี่ยนวิธีคิดให้รับประทานอาหารได้อย่างสบายใจกันดีกว่า ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมมีอาหาร 20 อย่างที่คุณสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบประกอบอาหารได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วนมาฝากกัน  รู้แล้วอย่าลืมเอาไปครีเอทเมนูอาหารเก๋ ๆ มารับประทานให้สบายท้องกันด้วยนะคะ

    ลดน้ำหนัก
     1. ไข่ แนะนำให้รับประทานแบบต้มจะดีที่สุด

    ลดน้ำหนัก
     2. ผักใบเขียว เพิ่มกากใยอาหารให้กับร่างกาย ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

    ลดน้ำหนัก
     3. บร็อคโคลี่ ไม่ว่าจะรับประทานแบบดิบ ผัด หรือต้ม ก็ถือว่าดีต่อสุขภาพทั้งนั้นค่ะ เพราะเป็นผักที่เป็นแหล่งรวมของโพแทสเซียม, แคลเซียม, เหล็ก, กรดโฟลิก, วิตามินซี และวิตามินเค ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก

    ลดน้ำหนัก
     4. พริกหวาน มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นระบบการย่อยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้อย่างดีเยี่ยม

    ลดน้ำหนัก
     5. เมล็ดอัลมอนด์ กินเป็นของว่างจะช่วยทำให้คุณหิวน้อยลง และจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเผาผลาญไขมัน

    ลดน้ำหนัก
     6. มันฝรั่งอบหรือต้ม ถือเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะมีแคลอรี่ต่ำ และยังอุดมไปด้วยวิตามินซี โพแทสเซียม วิตามินบี 1 และวิตามินบี 6

    ลดน้ำหนัก
     7. ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชที่ให้พลังงานสูงแต่ไขมันต่ำ และมีเส้นใยมากจึงสามารถดูดซึมน้ำตาล ไขมัน และของเสียต่าง ๆ ได้ดี

    ลดน้ำหนัก
     8. ขนมปังโฮลวีท ถือเป็นขนมปังที่เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะไม่ทำให้อ้วน และยังทำให้อิ่มท้องด้วย

    ลดน้ำหนัก
     9. แซลม่อน ถึงแม้ไขมันในปลาแซลมอนจะมีเยอะ แต่มันคือไขมันดี จะไม่ส่งผลให้น้ำหนักของคุณเพิ่มอย่างแน่นอน แถมยังมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกายอย่าง โอเมก้า 3 และวิตามินต่าง ๆ อีกด้วย ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ

    ลดน้ำหนัก
     10. อกไก่ เพราะเนื้อตรงส่วนนี้มีโปรตีนอยู่มากและไขมันต่ำ กินแล้วดีต่อสุขภาพ ไม่อ้วน มีราคาถูก และหาซื้อง่าย

    ลดน้ำหนัก
     11. ทูน่า ตัวช่วยชั้นดีในการลดน้ำหนัก เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและยังมีโอเมก้า 3 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น

    ลดน้ำหนัก
     12. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล ตัวช่วยควบคุมความอยากอาหาร และทำให้อิ่มเร็ว ถือเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักทางอ้อม

    ลดน้ำหนัก
     13. เนยแข็ง ควรเลือกกินเฉพาะไขมันต่ำ เพราะถือเป็นแหล่งรวมโปรตีนชั้นดี จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็วและอยู่ท้องได้นานกว่าอาหารประเภทข้าว พร้อมทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเร็วเกินไปอีกด้วย

    ลดน้ำหนัก
     14. ซุป ซุปที่เหมาะกับคนลดความอ้วนก็คือ ซุปผัก ซึ่งจะช่วยล้างสารพิษในร่างกาย กำจัดไขมันส่วนเกินในเส้นเลือด และทำความสะอาดระบบขับถ่ายไปพร้อม ๆ กัน รับรองว่ากินแล้วสุขภาพดี ไม่โทรม ผิวพรรณสดใส ไร้สิวฝ้า เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย

    ลดน้ำหนัก
     15. อะโวคาโด ถึงแม้จะมีไขมันมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นไขมันดี ซึ่งสามารถจะช่วยลดไขมันร้ายในหลอดเลือดได้ และยังจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและหัวใจวายได้อีกด้วย

    ลดน้ำหนัก
     16. กล้วยหอม เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงและมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบอยู่น้อย ที่สำคัญยังจะช่วยให้การเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดี
    ลดน้ำหนัก
     17. เกรปฟรุต ผลไม้หน้าตาคล้ายส้ม แต่ไม่ใช่ส้ม หรือที่ใครหลายคนนิยมเรียกกันว่า ผลไม้หุ่นสวย เพราะเป็นผลไม้ที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญน้ำตาลให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังมีสารไลโคปิน ซึ่งเป็นสารป้องกันมะเร็งที่พบในมะเขือเทศอีกด้วย

    ลดน้ำหนัก
     18. เมล็ดเจีย เป็นพืชในกลุ่มเครื่องเทศ กินแล้วให้พลังงานและมีคุณค่าทางอาหารสูง สามารถทานได้โดยผสมในสลัดหรืออาหารตามชอบ หรือแช่น้ำให้พองเต็มที่แล้วค่อยทานก็ได้


    ลดน้ำหนัก
     19. โยเกิร์ต จะต้องเป็นรสธรรมชาติ ไขมันต่ำ กินเท่าไหร่ก็ได้ไม่ต้องกลัวน้ำหนักเพิ่ม แถมช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วย

    ลดน้ำหนัก
     20. น้ำมันมะพร้าว ถือเป็นน้ำมันธรรมชาติที่มีแคลอรี่ต่ำกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ เมื่อนำไปประกอบอาหารจะสามารถช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานกว่าปกติ และทำให้ความอยากอาหารน้อยลง