วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

ดอกแค ผักบ้านๆ แต่มากด้วยประโยชน์

ดอกแค เป็นพืชที่ปลูกง่าย คนไทยสมัยก่อนชอบปลูกไว้ทำเป็นรั้วบ้าน ปลูกตามคันนา หรือปลูกไว้ริมถนน ส่วนใหญ่จะนำ ดอกแค มาทำอาหาร และหลายๆคนต้องรู้จักเมนูนี้เป็นแน่ คือ แกงส้มดอกแค นอกจากจะอร่อยแล้ว ดอกแค ก็ยังมีประโยชน์และมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย และไม่ใช่แค่ส่วนดอกเท่านั้นที่มีประโยชน์ ส่วนอื่นๆก็มีประโยชน์เช่นกัน วันนี้เรามีความรู้ดีๆเกี่ยวกับ ดอกแค มาฝากค่ะ ไปดูกันดีกว่าจ้า
Vegetable humming bird, Sesbania grandiflora, agasta.

ส่วนที่นิยมนำมารับประทานนั้นจะเป็นบริเวณยอดอ่อน ดอกอ่อน ใบอ่อน และฝักอ่อนซึ่งจะออกในช่วงฤดูฝน ส่วนดอกอ่อนจะออกในช่วงฤดูหนาว ดอกแค 100 กรัม หรือ 1 ขีด ให้พลังงานต่อร่างกาย 10 กิโลแคลอรี มีเส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง และวิตามินซี
สรรพคุณทางยาและวิธีใช้
ยอดอ่อน ใบอ่อน ดับพิษร้อนถอนพิษไข้ ดอก มีรสหวานออกขมเล็กน้อย สรรพคุณแก้ไข้หัวลม เปลือกต้น มีรสฝาด รักษาอาการท้องเดิน แต่ถ้ากินมากๆ จะทำให้อาเจียนได้ ราก น้ำจากรากนำมาผสมกับน้ำผึ้ง เป็นยาขับเสมหะ
  • แก้ไข้หัวลม แก้ร้อนใน: ใช้ยอดแคอ่อน ดอกแค ไม่แกะไส้ แกง หรือลวกเป็นผักจิ้ม
  • แก้ท้องเดิน : ใช้เปลือกต้นปิ้งไฟ ต้มกับน้ำ หรือน้ำปูนใส 10 ส่วน รับประทาน 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • แก้แผลมีหนอง : ใช้เปลือกต้นแคที่แก่ ๆ ตากแห้ง ฝนกับน้ำสะอาดหรือน้ำปูนใส ทาแผล เช้า – เย็น ก่อนทายาควรใช้น้ำต้มเปลือกแคล้างแผลก่อน จะช่วยให้แผลหายไวขึ้น
  • ยาล้างแผล : ใช้เปลือกแคต้มกับน้ำเดือดนาน 15 นาที เติมเกลือเล็กน้อย ใช้ล้างแผล วันละ 3 ครั้ง
  • แก้บิด แก้ท้องเสีย : ใช้เปลือกแค 2-3 ชิ้น ขนาดเท่าฝ่ามือ ต้มกับน้ำเดือดประมาณ 15 นาที โดยใช้น้ำ 2-3 ขัน ใช้หม้อดินต้ม กินยาขณะยังอุ่นอยู่ กิน 1-2 แก้ว วันละ 3 เวลา
  • แก้ฟกช้ำ : ใช้ใบสดตำให้ละเอียดพอกบริเวณที่เป็น
  • ปวดฟัน รำมะนาด : ใช้เปลือกแคต้ม ใส่เกลือให้เค็มจัด นำมาอม
  • ตานโขมย : ใช้แคทั้งห้าอย่าง ๆ ละ 1 กำมือ ใส่น้ำท่วมยาต้มให้เดือดนาน 5-10 นาที กินวันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 1 ช้อนโต๊ะ ประมาณครึ่งเดือน
วิธีและปริมาณที่ใช้
  • แก้มูกเลือด บิดมีตัว แก้ท้องเดิน ท้องร่วง คุมธาตุ
  • ใช้เปลือกต้นปิ้งไฟ 1 ส่วน ต้มกับน้ำหรือน้ำปูนใส 10 ส่วน รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนแกง
  • แก้ไข้ ลดความร้อน แก้ไข้หัวลม (หรือไข้อากาศเปลี่ยน)
  • ใบสด ต้มกับน้ำรับประทานลดไข้ ใช้ยอดอ่อนจำนวนไม่จำกัด ลวกจิ้มกับน้ำพริก รับประทานแก้ปวดศีรษะข้างเดียว
  • ใช้ดอกที่โตเต็มที่ล้างน้ำ ต้มกับหมูทำบะช่อ 1 ชาม รับประทาน 1 มื้อ รับประทานติดต่อกัน 3-7 วัน จะได้ผล

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.kasetporpeangclub.com
thaihealth.or.th

ไม่มีความคิดเห็น: