วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

อ่อนเพลีย อย่างนี้ไม่มีโรค

อ่อนเพลีย อย่างนี้ไม่มีโรค

มีผู้ป่วยหลายคนมาพบแพทย์ด้วยเรื่อง อ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงทำงาน บางคนบอกว่ารู้สึกเหนื่อยง่าย บ้างก็ว่าร่างกายอ่อนล้าผิดปกติ ที่สำคัญคือกลัวว่าจะเป็นโรคร้ายแรง
โดยมากเมื่อคนเราเจ็บป่วย มักจะมีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วยเสมอ ดังนั้น ถ้ามีอาการอ่อนเพลียจึงมักจะนึกถึงโรคต่างๆ แต่สำหรับคนที่รู้สึกอ่อนเพลียแต่ไม่มีอาการเจ็บป่วยใดๆ ที่เห็นได้ชัด จะเกิดความวิตกกังวล ครั้นไปพบแพทย์ก็อาจตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ แพทย์เองก็วินิจฉัยไม่ถูก
บางคนก็บอกว่าเกิดจากความเครียด หรือวิตกกังวล และแพทย์เองก็ไม่รู้จะให้ยาอะไร นอกจากยาคลายเครียด วิตามิน หรือน้ำเกลือ ก็แล้วแต่วิธีการรักษาของแต่ละคน และกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาคลายเครียดด้วยก็จะยิ่งทำให้ง่วงซึมและอ่อนเพลียมากขึ้นไปอีก
80707269
อาการอ่อนเพลียเป็นอาการทางร่างกายและจิตใจที่พบได้บ่อยๆ ซึ่งมีทั้งที่เกิดจากโรคและที่ไม่ใช่โรค เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ ตรากตรำทำงานหนัก อากาศที่ร้อนจัด วิตกกังวล เครียด ขาดสารอาหาร  หรืออาจเกิดจากโรค เช่น โรคติดเชื้อ หรือเจ็บป่วยอื่นๆ
สำหรับตัวผู้เขียนเองนั้นมักจะพยายามบอกให้ผู้ป่วยรู้จักพึ่งพาตัวเองในระดับหนึ่ง โดยใช้ดุลยพินิจวิเคราะห์อาการต่างๆ เมื่อรู้สึกไม่สบาย ว่าจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ มีสาเหตุที่สามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือไม่
กรณีอ่อนเพลียที่ไม่พบอาการผิดปกติอื่นใดและพอจะหาสาเหตุได้ เช่น นอนน้อยเกินไป มีภาวะเครียด การจำกัดอาหาร อย่างนี้ก็ให้แก้ไขที่สาเหตุ ปรับพฤติกรรมและวิถีชีวิตใหม่ พยายามผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ โดยที่ยังไม่ต้องไปพึ่งน้ำเกลือหรือยาบำรุงใดๆ เพราะ “อาการบางอย่างไม่ใช่โรค” และ “โรคบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา”
อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า บางครั้งก็เกี่ยวข้องกับอาหารที่กินด้วย เมื่อร่างกายขาดสารอาหารบางอย่างก็ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เซื่องซึม หรือเหนื่อยล้าได้ เช่น ขาดพลังงาน ขาดโปรตีน ขาดวิตามินบี หรือธาตุเหล็ก เป็นต้น
ดังนั้น คนที่จำกัดการกินอาหารหรือพยายามลดน้ำหนัก จะมีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่สำคัญคือ จะต้องกินอาหารให้หลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน ร่างกายจะเกิดสมดุล กล้ามเนื้อแข็งแรง ภูมิคุ้มกันดีขึ้น นอกจากนี้ควรกินปริมาณพอดี ไม่มากไปหรือน้อยไป งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดอาหารพวกไขมันแปรรูป ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ ๘ แก้ว เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อ่อนเพลียได้เช่นกัน
นอกจากเรื่องอาหารแล้ว ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ทำใจให้สบาย หลีกเลี่ยงความเครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะทำให้กล้ามเนื้อและระบบเผาผลาญทำงานดี
ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง แพทย์จะต้องซักประวัติและตรวจร่างกาย โดยส่วนใหญ่ถ้าเจ็บป่วยเป็นโรคมักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย และจะสังเกตได้ไม่ยาก แต่ที่แพทย์มักจะถามอยู่เสมอคือ มีไข้ไหม น้ำหนักลดหรือผอมลงหรือไม่ ปัสสาวะมากและกระหายน้ำบ่อยๆ หรือไม่ เป็นต้น เพื่อที่จะวินิจฉัยแยกโรคว่าเกิดจากความเจ็บป่วยหรือเกิดจากสาเหตุอื่นกันแน่
สำหรับอาการอ่อนเพลียเหนื่อยล้าแบบเรื้อรัง ชนิดที่ว่าไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ พักผ่อนหรือปรับปรุงวิถีชีวิตแล้วก็ยังไม่หาย จัดเป็นอาการป่วยชนิดหนึ่ง วินิจฉัยค่อนข้างยาก ตามตำราจะเรียกอาการแบบนี้ว่า โครนิกฟาทีกซินโดรม (chronic fatigue syndrome-CFS) ซึ่งมักจะอ่อนเพลียมานาน ส่วนใหญ่จะมากกว่า ๖ เดือน และมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดตามข้อ เจ็บคอ มีไข้ นอนไม่หลับ ซึมเศร้า เป็นต้น
โรคนี้พบได้ไม่บ่อย สาเหตุนั้นยังไม่แน่ชัด โดยอาจเป็นผลมาจากโรคติดเชื้อเรื้อรัง ขาดสารอาหาร ขาดฮอร์โมนบางอย่าง หรือเกิดจากภาวะเครียดเรื้อรัง เป็นต้น การรักษานั้นต้องใช้ทั้งยา โภชนบำบัด และปรับวิถีชีวิตให้สมดุล
แต่สำหรับอาการอ่อนเพลียที่พบอยู่บ่อยๆ นั้น มักจะไม่ใช่เกิดจากโรคหรือความเจ็บป่วย ส่วนใหญ่เกิดจากการมีวิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้อง เช่น พักผ่อนน้อย ตรากตรำทำงาน กินอาหารไม่เพียงพอ ความเครียด เป็นต้น ดังนั้นวิธีการรักษาจึงอยู่ที่การแก้ไขสาเหตุมากกว่าการพึ่งพายาหรือน้ำเกลือเพื่อบำรุงกำลัง

ขอบคุณที่มาจาก : นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 376 เดือน/ปี: สิงหาคม 2010
คอลัมน์: คุยกับ หมอ 3 บาท นักเขียนหมอชาวบ้าน: นพ.พินิจ ลิ้มสุคนธ์

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

ส้มป่อย พืชศักคิ์สิทธิ์ ของดีล้านนาที่ยังมีลมหายใจ

 "ส้มป่อย" พืชศักดิ์สิทธิ์ ของดีล้านนาที่ยังมีลมหายใจ
 

"ส้มป่อย" พืชศักดิ์สิทธิ์ ของดีล้านนาที่ยังมีลมหายใจ เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ของชาวล้านนา ทุกคนมีความสุขสนุกสนานเบิกบานใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิต โดยพิธีกรรมบางอย่างพบว่า มีเรื่องของต้นไม้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในด้านของความเชื่ออยู่ค่อนข้างมาก

นิทานจากพรหมจักร ชาดก ชาดกล้านนาเรื่อง "อุสสาบารส" กล่าวถึงเรื่องของส้มป่อยว่า ครั้งหนึ่งมีควายชื่อทรพีคิดอยากเอาชนะพ่อ จึงท้าชนทรพาผู้พ่อ ทั้งสองต่อสู้กันจนเวลาล่วงเลย ฝ่ายทรพีเพลี่ยงพล้ำถูกทรพาไล่ขวิดจนถอยร่นไปไกล

ขณะนั้นเองทรพีได้ถอยไปชนต้นส้มป่อยที่กำลังออกฝักอยู่ ด้วยกำลังที่ชนอย่างแรงทำให้ฝักส้มป่อยหล่นลงมาถูกหัวทรพี ทันใดนั้น กำลังที่เคยอ่อนล้าหมดแรง เกิดฮึกเหิมเพิ่มขึ้น ได้ทีทรพีจึงถาโถมเข้าชนทรพาอย่างเมามัน ผู้เป็นพ่อเสียทีหมดแรงถอยไปชนต้นมะขามป้อม ลูกมะขามป้อมหล่นถูกหัว เรี่ยวแรงที่อ่อนล้ายิ่งหมดไป จึงถูกทรพีผู้เป็นลูกฆ่าตายในที่สุด เรื่องนี้อาจเป็นต้นเหตุหนึ่งของความเชื่อในอนุภาพของน้ำส้มป่อย

ในวรรณกรรมชาดกเรื่อง "ปุณณนาคกุมาร" ตอนที่ปุณณนาคกุมารเข้ากราบทูลพระบิดาเพื่อขออนุญาตทิ้งสภาวะอันเป็นนาคให้กลายเป็นมนุษย์ พระบิดาทรงอนุญาตและได้ประทานขันทองคำให้ 1 ใบ แล้วให้หาส้มป่อยให้ได้ฝัก ที่มี 7 ข้อ จำนวน 7 ฝัก เอาแช่ในขันที่มีน้ำจาก 7 แม่น้ำ และ 7 บ่อ นำไปที่ฝั่งแม่น้ำใหญ่ เสกคาถา 7 บท จำนวน 7 คาบ ถอดคราบออกและอาบน้ำมนต์พร้อมสระเกล้าดำหัว


จากนั้นเอาคราบนาคนั้นใส่ในขันทองคำไหลลงน้ำเสียจึงจะเป็นคนโดยสมบูรณ์ การใช้ส้มป่อยที่ปรากฏในเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อในคุณสมบัติของส้มป่อยอีกเรื่องหนึ่ง

ส้มป่อย เป็นพืชประเภทไม้เถาเนื้อแข็งชนิด Acacia rugata Merr. ในวงศ์ Leguminosae ต้นและใบคล้ายชะอม มีรสเปรี้ยว ชาวบ้านจะใช้ยอดอ่อนใส่แกงให้ได้รสเปรี้ยว แทนมะนาว ชาวบ้านนิยมใส่ในต้มส้มไก่เมือง ปลา หรือต้ม ส้มขาหมู จะได้รสชาติเปรี้ยวอร่อยและหอมกลิ่น

ส้มป่อยมีผลเป็นฝักแบนๆ เป็นข้อ คล้ายฝักฉำฉาหรือฝักกระถินเทศ แต่จะสั้นและบางกว่า จะมีหนามตลอดที่ต้นและกิ่งก้าน นิยมใช้ฝักแห้งของส้มป่อยแช่น้ำสำหรับเป็นส่วนประกอบสำคัญในพิธีกรรมรดน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล

สรรพคุณทางยา ต้น แก้น้ำตาพิการ ใบแก้โรคตา เป็นยาถ่าย ขับเสมหะ ชำระเมือกมันในลำไส้ แก้บิด ฟอกล้างประจำเดือน ดอกรักษาโรคเส้นพิการ, ผล ใช้แก้น้ำลายเหนียว, ราก ใช้แก้ไข้, ฝักแห้งนำไปปิ้งให้เหลืองชงน้ำจิบแก้ไอและขับเสมหะ เป็นยาทำให้อาเจียน

ใช้ฟอกผมแก้รังแค ช่วยให้ผมดกดำเป็นเงางาม ไม่แตกปลาย แก้ไข้จับสั่น แก้โรคผิวหนัง, เมล็ด นำไปคั่วแล้วบดให้ละเอียดใช้นัตถุ์ให้คันจมูก ทำให้จามดี ส่วนใบ ตำให้ละเอียดใช้ประคบช่วยคลายเส้นได้
ส้มป่อย เป็นพืชสมุนไพรที่ผู้คนยกย่องให้มีคุณค่าควรแก่การเก็บรักษา เชื่อว่าสามารถขจัดสิ่งชั่วร้ายเภทภัยต่างๆ ให้หมดไปจากตัวและบ้านเรือนได้

วิถีชีวิตชาวชนบทล้านนากลมกลืนสอดคล้องกับธรรมชาติ ความเชื่อและแนวปฏิบัติจึงได้รับอิทธิพลจากสิ่งรอบตัวถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุณค่าสำคัญของธรรมชาติเกิดจากใจที่มีแรงศรัทธาและความเชื่อมั่น หลายอย่างจึงบังเกิดผลดีและถ่ายทอดให้ถือปฏิบัติสืบมา


นอกจากนี้ ส้มป่อยยังผูกพันเกี่ยวข้องกับชาวชนบทล้านนาในเรื่องพิธีกรรมสำคัญต่างๆ ชาวบ้านเชื่อว่า ส้มป่อยเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ ขจัดสิ่งเลวร้าย อัปมงคล เป็นการปลดปล่อยสิ่งไม่ดีให้หลุดพ้นจากชีวิต

โดยเฉพาะคนล้านนามีความเชื่อตามชาดกว่าเป็นพืชที่มีพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เรียกตามภาษาถิ่นว่าส้มป่อย เป็นตัวแพ้สิ่งจัญไรอัปมงคลชั่วร้าย (แพ้ เป็นภาษาถิ่นเหนือ หมายถึง ชนะ) คำว่าป่อย หมายถึงปลดปล่อยสิ่งจัญไรทั้งหลายให้หลุดพ้นจากชีวิตคนเรา ชาวบ้านจะเก็บฝักส้มป่อยในช่วงเดือน 5 เป็ง หรือขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 เหนือ ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน เรียกส้มป่อยที่เก็บในเดือนนี้ว่า ส้มป่อยเดือน 5 จะทำให้ได้ส้มป่อยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น

เมื่อได้เวลาเก็บ ชาวบ้านจะเลือกเก็บฝักส้มป่อยที่แก่จัด นำไปตากในกระด้งให้แห้งสนิท เก็บใส่ตะกร้าไว้ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ทั้งพิธีมงคลและอัปมงคล ก่อนนำไปใช้จะนำฝักส้มป่อยไปผิงไฟพอให้สุก ส้มป่อยจะมีกลิ่นหอมเปรี้ยว จากนั้นหักฝักส้มป่อยเป็นชิ้นเล็กๆ แช่ในน้ำ จะได้น้ำส้มป่อยที่มีสีเหลืองอ่อนๆ สำหรับใช้ในพิธีกรรมสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ในด้านการปฏิบัติ ชาวล้านนานิยมใช้ส้มป่อยมาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทศกาลสงกรานต์ สำหรับวิธีการใช้จะใช้ฝักแห้งของส้มป่อยปิ้งไฟให้ หอมแช่ลงในน้ำสะอาด ที่มีผงขมิ้นละลายเจืออยู่ เรียกน้ำนี้ว่า "น้ำขมิ้นส้มป่อย" แต่ระยะหลังนี้ไม่ค่อยปรากฏการใช้ขมิ้นอีก แต่นิยมเติมน้ำอบน้ำหอมและเกสรแห้งของดอกไม้หอม เช่นดอกสารภีและดอกคำฝอย เป็นต้น

น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ชำระสิ่งชั่วร้ายจากพระสงฆ์ นอกจากคาถาที่ร่ายเป่าลงไปแล้ว ในน้ำยังมีสิ่งสำคัญที่ก่อเกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ศรัทธา คือส้มป่อยเป็นส่วนผสมหนึ่งด้วย

พิธีการสำนึกบุญคุณและขอขมาผู้ใหญ่ที่นับถือ หรือการดำหัวในเทศกาลปี๋ใหม่เมือง ผู้น้อยถือขันข้าวตอก ดอกไม้ ธูป เทียน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ น้ำส้มป่อย ที่ผู้ใหญ่ใช้ลูบหัวหลังเสร็จการให้พร แล้วสะบัดพรมให้ลูกหลานเพื่อเป็นสิริมงคลทั้งตนเองและผู้ที่รัก

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ เช่น พระพุทธรูป พระเครื่อง ชาวบ้านจะนำน้ำส้มป่อยใส่น้ำอบน้ำหอม เพื่อสรงน้ำพระในวันปี๋ใหม่เมือง เช่นกัน

ประเพณีงานบุญที่พ่อแม่ทุกคนต่างรอคอยโอกาส สร้างกุศลใหญ่ เพื่อปรารถนาให้ลูกชายพาไปพบชีวิตที่ดีในโลกหน้าคือ การบวชลูกแก้ว (บวชพระหรือเณร) น้ำส้มป่อยก็เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการชำระล้างเนื้อตัวให้บริสุทธิ์ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

ความตาย น้ำส้มป่อยก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในงานใช้อาบน้ำศพเพื่อให้ผู้จากไปได้พบสิ่งดีสู่สุคติ ผู้ที่ยังอยู่จะใช้น้ำส้มป่อยล้างมือ ลูบผมเพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายและไล่เสนียดจัญไรออกจากตัว ถ้าเป็นการเผาผีตายโหง ฝักส้มป่อยที่นำติดตัวสามารถล้างอาถรรพ์จากผีไม่ให้ติดตามมาได้

การสืบชะตาสะเดาะเคราะห์ประกอบพิธีไหว้ครู เช่น ครูซอ ครูหมอเมือง (หมอสมุนไพรพื้นบ้าน) ล้วนมีน้ำส้มป่อยเข้ามาช่วยให้ขลัง ชาวบ้านยังมีความเชื่อว่า ถ้าใครไปทำสิ่งไม่ดีที่เรียกว่า ขึด ทำให้ตนเจอะเจอความชั่วร้าย ไม่เป็นมงคล สิ่งที่ช่วยให้บรรเทาเบาบางลงคือ น้ำส้มป่อย

ครูอาจารย์ผู้มีเวทมนตร์คาถาที่นั่งผีปู่ย่า (คนทรง) เมื่อทำผิดข้อห้ามของครูอาจารย์ บรรพบุรุษ ที่เรียกกันว่า ผิดครู หรือบุคคลที่มีคาถาอาคมที่บังเอิญไปลอดราวตากผ้า หรือร้านบวบ (เชื่อว่าจะทำให้คาถาอาคมเสื่อม) น้ำส้มป่อยก็ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นและมีของดีในตัวได้ดังเดิม

ส้มป่อยกับวิถีชีวิตชาวชนบทล้านนาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมาช้านาน เกือบจะทุกขั้นตอนในการดำเนินชีวิตตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งหมดลมหายใจ

การเคารพความยิ่งใหญ่ในธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น ก่อให้เกิดพลังศรัทธากลายเป็นความเชื่อมั่นนำไปสู่การปฏิบัติที่ได้ผล ดังนั้นผู้คนจึงยกให้ส้มป่อยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ควรคู่ชีวิตชาวล้านนาตลอดไป.

วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

ความต้องการทางเพศ ที่แท้จริงของผุ้หญิงเป็นอย่างไร เรามาล้วงลึกกัน

ความต้องการทางเพศ ที่แท้จริงของผู้หญิงเป็นอย่างไร เรามาล้วงลึกกัน

ความต้องการทางเพศ
ก็เพราะผู้ชายเราไม่ใช่เครื่องคอมพิวเตอร์นิครับ ที่จะมองผู้หญิงแล้วจะประเมิณผลออกมาได้เลยว่าเธอชอบแบบได้ว่ามีความต้องการทางเพศ อย่างไรกันบ้าง ซึ่งนั่นก็อาจที่จะเป็นปัญหาสำหรับ เรื่องบนเตียง ของทั้งคู่ได้ เพราะ ความต้องการทางเพศ ของทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากันแต่รู้รึเปล่าครับว่า ผุ้หญิงก็เหมือนผู้ชายอย่างเรานั่นแหละ ก็ต้องมีอารมณ์ห่ามๆ อยากทำอะไรที่แบบลามกแบบเราเหมือนกันครับ แต่เธอแค่ไม่กล้าพูดออกมาโต้งๆ ก็แค่นั้น วันนี้ Men.MThai เราก็เลยขอ ขุดคุ้ย ล้วงลึก ความปรารถนา ความต้องการทางเพศ ของผู้หญิงมาฝากเพื่อนๆ กันครับ

1 ปล้ำฉันทีเถอะ

ความต้องการทางเพศ
ความต้องการทางเพศ
เอาจริงๆ เลยนะครับ ผู้หญิงก็ฝันถึงเซ็กส์ที่บ้าระห่ำ ป่าเถื่อน รุนแรงเหมือนกันนะครับ เพื่อนๆ ถ้าเอาจริงๆ แล้วเราอาจจะสวมบทบาท เล่นละครฉากข่มขืนทำรุนแรงกับเธอ (อย่าแรงมากไป) แค่นี้ก็จะทำให้เธอรู้สึกปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้นออกมาได้แล้วครับ

2 สาวโลกีย์ระเริงชาย

ความต้องการทางเพศ
ความต้องการทางเพศ
การมีเซ็กส์กับผู้ชาย 2 คนในเวลาเดียวกัน มันก็เป็น ความต้องการทางเพศ ที่อยู่เบื้องลึกของผู้หญิงเลยนะครับ ถึงแม้โอกาศที่จะเกิดขึ้นน้อย สำหรับผู้หญิงที่คบกันอยู่ แต่การที่เธอได้มีเซ็กส์กับผู้ชาย 2 ในเวลาเดียวกัน มันจะทำให้เธอรู้สึกเป็นที่ต้องการมากขึ้นครับ วิธีนี้เราอาจจะแก้ไขโดยใช้เป็นเซ็กส์ทอยช่วยไปด้วยแทนก็ได้ครับ

3 สนุกสนานกับหนังสด

ความต้องการทางเพศ
ความต้องการทางเพศ
ไม่ใช่ผู้ชายอย่างเราหรอกนะที่จะมี ความต้องการทางเพศ ในการดูคู่รักคู่อื่นๆ โจ๊ะพรึมๆ กัน เพราะผู้หญิงก็ไม่ต่างกันครับ การได้เห็นบทรักของคนอื่นเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศของผู้หญิงอย่างหนึ่งเลยนะ

4 เซ็กส์สนุกเมื่อไม่รู้จักกัน

ความต้องการทางเพศ
ความต้องการทางเพศ
ความปรารถนาที่จะมีเซ็กส์ กับคนแปลกหน้านี่แหละ คือ ความต้องการทางเพศ ในเบื้องลึกในจิตใจของผู้หญิงเพราะอาการ ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ นี่แหละ ที่ทำให้สาวๆ ละเมอเพ้อพกถึงชายหนุ่มที่เพิ่งเดินผ่านหน้าไป จนเก็บไปฝันว่าได้มีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน-แม้จะเจอหน้ากันครั้งแรกก็ตาม

5 ระบำเปลื้องผ้าแบบเซ็กซี่

ความต้องการทางเพศ
ความต้องการทางเพศ
จุดนี้ไม่ได้หมายความว่าให้เราไปฝึกเต้นเป็นโคโยตี้แล้วไปเต้นยั่วเธอนะ บอกก่อน ระบำเปลื้องผ้าที่ว่าก็คือเธอจะเป็นฝ่ายที่เต้นยั่วเราเองครับ เพื่ออวดทรวดทรง ความเซ็กซี่ มันก็เหมือนเป็นการปลดปล่อยความดิบในตัวของเธอแหละครับ ที่เราต้องทำก็แค่จัดการเธอให้อยู่หมัดแค่นี้เอง

วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557

หนุ่ม ๆ รุ้ไหม อาหารว่างแบบไหนส่งผลดีต่อสูขภาพ

หนุ่ม ๆ รู้ไหม อาหารว่างแบบไหนส่งผลดีต่อสุขภาพ

อาหารเพื่อสุขภาพ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เคยคิดเหมือนกันไหมครับว่าความสุขเล็ก ๆ อย่างหนึ่งของคนเรา คือการได้ทานอาหารว่างอร่อย ๆ ในช่วงระหว่างวัน แต่ขณะเดียวกัน หลายคนก็อาจดื่มด่ำกับความสุขเหล่านั้นได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากยังยึดติดกับความเชื่อที่ว่าอาหารว่างคือของไม่มีประโยชน์ และพยายามหักห้ามใจเพื่อเลี่ยงปัญหาด้านสุขภาพ แต่ทราบหรือไม่ว่า ยังมีของว่างบางประเภทซึ่งเมื่อทานคู่กันแล้ว จะให้คุณค่าทางสารอาหารมากขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่าทั้งอิ่มอร่อยและได้คุณค่าในเวลาเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นไปดูเลยดีกว่าครับว่ามีอาหารว่างแบบไหนที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายของหนุ่ม ๆ กันบ้าง

          กล้วยและเนยถั่ว

กล้วยและเนยถั่ว

          รู้หรือไม่ว่า เพียงแค่ทานกล้วยคู่กับเนยถั่วก็สามารถเติมพลังให้กับร่างกายในช่วงบ่ายได้ เนื่องจากกล้วยอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ช่วยกระตุ้นการสร้างพลังงานในร่างกาย รวมถึงมีโปแทสเซียมที่ส่งผลดีต่อการทำงานของหัวใจ ในขณะที่โปรตีนจากเนยถั่วจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดวัน

          ไข่และชีส

 ไข่และชีส

          สำหรับใครที่ชื่นชอบเมนูแซนวิช ลองหันมาทานแซนวิชไข่แล้วฝานเชดด้าชีสแผ่นบาง ๆ ลงไปด้วยสิครับ เพราะจะได้รับทั้งวิตามินดีจากไข่แดงและแคลเซียมจากชีสในคราวเดียวกัน ซึ่งช่วยให้กระบวนการดูดซึมสารอาหารของร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ โปรตีนที่ย่อยง่ายจากไข่ยังส่งผลดีต่อความหนาแน่นของมวลกระดูกที่เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

          ผักโขมและน้ำมะนาว

ผักโขมและน้ำมะนาว
          ไม่น่าเชื่อว่าการทานผักโขมร่วมกับน้ำมะนาว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็กของเซลล์ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One ยังระบุว่า การทานผักโขมคู่กับน้ำมะนาวยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมอง อีกทั้งช่วยบรรเทาอาการกล้ามเนื้ออ่อนล้า รวมถึงช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้นอีกด้วย

          ดาร์คช็อกโกแลตและแอปเปิล

ดาร์คช็อกโกแลตและแอปเปิล

          ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American Medical Association ได้ระบุว่า การทานดาร์คช็อคโกแล็ตในปริมาณนอด ๆ หน่อย ๆ ต่อวัน สามารถลดความดันโลหิตได้ และถ้าจะให้ดีกว่านั้นก็ควรทานแอปเปิลควบคู่กันไปด้วย เพราะในแอปเปิลนั้นอุดมไปด้วยสารเควอซิทินที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งเมื่อมารวมตัวกับสารคาเทชิส์ในดาร์คช็อกโกแลต จะกลายเป็นการสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือดได้เป็นอย่างดี

          เห็นไหมล่ะครับว่าอาหารว่างแต่ละอย่างที่เราได้นำเสนอไปนั้น นอกจากจะน่าทานแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย อ้อ อย่ามัวแต่ทานเพลินจนลืมให้ความสำคัญกับโภชนาการในอาหารมื้อหลักนะครับ ถ้าหากคุณให้ความสำคัญกับการทานอาหารทั้งสองแบบควบคู่กันไปอย่างเหมาะสมแล้วล่ะก็ เราขอรับประกันว่าประตูสู่การมีสุขภาพดีไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557

เลือกชุดชั้นในให้แฟนสาวไม่ยากอย่างที่คิด

เลือกชุดชั้นในให้แฟนสาวไม่ยากอย่างที่คิด

เลือกชุดชั้นในให้แฟนสาวไม่ยากอย่างที่คิด


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หนุ่ม ๆ คนไหนที่อยากจะเติมความหวานให้กับความรัก หรืออยากเซอร์ไพรซ์แฟนสาวด้วยการเลือกซื้อชุดชั้นในสุดชิคให้เป็นขวัญสักชุด แต่ยังไม่แน่ใจว่าพวกเธอชอบใส่ชุดชั้นในแบบไหนอยู่กันแน่ แต่จากนี้หมดกังวลไปได้เลย เพราะกระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกซื้อชุดชั้นในเป็นของขวัญมาฝากกันด้วย รับรองว่าถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับแน่นอนครับ
วิธีเลือกชุดชั้นใน
           รู้รสนิยมของเธอ
    
          รู้หรือไม่ว่าผู้หญิงจะดูดีที่สุดเมื่อเธอมีความมั่นใจจากภายใน ดังนั้น การเสาะหาชุดชั้นในมาฝากสาว ๆ จึงไม่ควรยึดเอาความคิดว่าคุณอยากเห็นเธอใส่อะไรมาเป็นที่ตั้ง แต่ควรเลือกแบบที่เธอเต็มใจใส่จะดีกว่า เพราะในที่สุดเธอก็จะเป็นคนสวมและเป็นเจ้าของชุดชั้นในชิ้นนั้นอยู่ดี

           ใส่ใจเนื้อผ้าและวัสดุตัดเย็บ
    
          คุณผู้ชายหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า ชุดชั้นในของผู้หญิงไม่ได้ผลิตจากผ้าซาตินหรือลูกไม้เท่านั้น แต่ยังมีผ้าชนิดอื่นที่ให้คุณภาพดีกว่าอย่างเช่น ผ้าฝ้าย ที่ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายยิ่งขึ้น และถ้ายังคิดอะไรไม่ออก ลองเลือกซื้อชุดชั้นในผ้าฝ้ายคู่กับชุดนอนสุดเก๋ที่เข้ากันสักชุด เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เธอมีลุคที่ดูน่ารักและเซ็กซี่ได้ในเวลาเดียวกัน

วิธีเลือกชุดชั้นใน
           มองหาเสื้อชั้นในแบบมีโครง 
    
          หากแฟนสาวของคุณไม่ใช่คนที่มีหน้าอกหน้าใจเท่าใดนัก เธออาจต้องการตัวช่วยเพื่อเพิ่มความมั่นใจสักหน่อย โดยคุณสามารถเลือกเสื้อชั้นในแบบมีโครงเพื่อเสริมขนาดหน้าอกของเธอให้ดูใหญ่และมีทรวดทรงยิ่งขึ้น ลองเลือกแบบและสีให้ดูน่าสนใจสักหน่อย น่าจะทำให้แฟนสาวของคุณแฮปปี้กับของขวัญชิ้นนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว

           เลือกแบบให้หลากหลาย

          หากจะซื้อชุดชั้นในเป็นของขวัญให้แฟนสาวทั้งที ก็ควรเลือกแบบและสีที่หลากหลายสักหน่อยจะดีกว่า ลองสังเกตว่าเธอมีชุดแบบไหนอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วบ้าง จากนั้นก็ออกไปหาแบบที่ต่างออกไปมาฝากก็แค่นั้น เราเชื่อว่าคุณย่อมรู้รสนิยมของเธอดีอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ 

วิธีเลือกชุดชั้นใน
           เลือกแบบที่ใช่ที่สุด
    
          ทุกวันนี้มีแบบชุดชั้นในสวย ๆ วางขายอยู่มากมายในท้องตลาด ขอแค่คุณอย่าเขินอายที่จะทุ่มเวลาไปกับการเลือกซื้อของขวัญสุดพิเศษชิ้นนี้ให้กับแฟนสาว ลองเลือกดูหลาย ๆ ร้านจนกว่าจะถูกใจ โดยอาจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากพนักงานขายดูด้วยก็ได้ น่าจะช่วยให้คุณเลือกชุดได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

          การให้ของขวัญแก่คนรักบ้างในบางโอกาส ถือเป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงความรักให้ยืนยาวขึ้นได้นะครับ อย่างน้อยก็ทำให้ฝ่ายหญิงรู้ว่าเราใส่ใจแค่ไหน แต่ทั้งนี้้ทั้งนั้น คุณค่าของการให้ไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่ความปรารถนาดีที่เราส่งผ่านของขวัญชิ้นพิเศษนั้นนั่นเอง

วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

เซ็กส์ 5 ท่า....ที่ผุ้หญิงถูกใจ

เซ็กส์ 5 ท่า… ที่ผู้หญิงถูกใจ
เซ็กส์
ถาม : คุณหมอครับ เซ็กส์ท่าไหนที่ผู้หญิงจะถูกใจครับ?
ตอบ : คำถามสั้นๆ แต่คงต้องตอบยาว ถึงเรื่องท่วงท่า ลีลาเซ็กซ์ที่ผู้หญิงชอบ รวมไปถึง ข้อดี ข้อเสียของแต่ละท่า ซึ่งประมวลได้มา 5 ท่าที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ถูกใจมีดังนี้ค่ะ
  1.ท่าอยู่บน ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบท่าที่ตนอยู่บนฝ่ายชายอยู่ล่าง เพราะเธอสามารถสั่งการควบคุมและมีพลังอำนาจเหนือฝ่ายชาย ฝ่ายชายสามารถช่วยให้เธอมีความสุขมากขึ้นได้โดยใช้มือสองข้างจับ, พยุงสะโพกของเธอ หรือช่วยสะโพกให้กระแทกลงมา ลูบไล้เหนือตัวหรือโลมเล้าหน้าอกของเธอ
- ข้อดีของท่านี้ คือฝ่ายหญิงสามารถกำหนดความลึกระดับการเสียดสีที่พอใจได้
- ข้อเสียมีสองข้อ ข้อหนึ่งฝ่ายหญิงอาจรู้สึกว่าตนเองโป๊ ข้อสองหากทำบนเตียงนอนอาจจะไม่สะดวกในการพับขาหรือชันขา
วิธีแก้ เรื่องโป๊คงต้องใช้ปิดไฟมืด เรื่องขาไม่พอดี อาจเปลี่ยนไปมีเซ็กส์บนเก้าอี้นวมให้ฝ่ายชายนั่งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ฝ่ายหญิงนั่งคร่อม
  2.ท่ามิชชั่นนารี ชายอยู่บนหญิงอยู่ล่าง อย่าคิดว่าเป็นท่าข้าวราดผัดกะเพราไข่ดาว(ท่าสิ้นคิด) เพราะท่านี้ฝ่ายชายสามารถกำหนดความลึกและระดับการเสียดสีจุดจีและปุ่มกระสันทำให้เธอได้รับความพอใจสูงสุด มีเคล็ดลับที่ทำให้ฝ่ายหญิงพอใจมากขึ้นเมื่อใช้ท่านี้ คือฝ่ายชายสามารถกระซิบหรือพูดเรื่องลามกตลกๆ หรือชมเธอในขณะมีเซ็กส์
  3.ท่าช้อนซ้อนกัน คือนอนหันหน้าไปทางเดียวกันฝ่ายชายซ้อนอยู่ด้านหลังท่านี้เป็นท่าผ่อนคลาย ฝ่ายชายไม่หลั่งเร็วเพราะไม่เสียดสีโดยตรง ที่ฝ่ายหญิงชอบเพราะความอบอุ่นที่ฝ่ายชายโอบรัดจากด้านหลัง และการก่ายขาเข้าด้วยกัน ท่านี้ยังสามารถมีลูกเล่นได้มาก เช่น ฝ่ายหญิงงอตัวเหมือนกุ้งเพื่อให้ฝ่ายชายสอดใส่ได้ลึกมากขึ้น
  4.ท่านั่ง ฝ่ายหญิงนั่งแยกขาบนโต๊ะที่อยู่ระดับเอวของฝ่ายชาย ท่านี้จะเห็นในภาพยนตร์หลายเรื่องที่ทำรักกันที่โต๊ะในครัว, ที่ข้างอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ, บนเครื่องซักผ้า (ระวังเครื่องซักผ้าพัง), บนฝากระโปรงรถ (นอกจากระวังฝากระโปรงรถบุบแล้วยังต้องระวังมีคนแอบดู) ฝ่ายชายยืนสอดใส่ซึ่งมักจะสัมผัสจุดจีที่ทำให้ฝ่ายหญิงพึงพอใจมาก
  5.ท่า Doggie ฝ่ายหญิงคลานฝ่ายชายสอดใส่เข้าทางบั้นท้าย ท่านี้มักจะสอดใส่ได้ลึกและกระตุ้นปุ่มกระสันได้ดี มีคนสงสัยว่าทำไมท่านี้จึงฮิตติดอันดับที่ผู้หญิงถูกใจ เชื่อว่าเป็นเรื่องของแฟนตาซี ที่ผู้หญิงฝันเฟื่องถึงท่าสมสู่เหมือนสัตว์เลี้ยงที่ชอบ และท่านี้ยังอนุญาตให้ฝ่ายชายลูบไล้เลียไหล่หลังไปจนถึงบั้นท้ายของฝ่ายหญิง ซึ่งถือว่าเป็นอาณาจักรที่ไวต่อความรู้สึกยิ่งนัก

ขอบคุณที่มาจาก  “พญ.ชัญวลี ศรีสุโข”www.healthcorners.com

วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

5 วิธีสร้างแรงกระตุ้นดีๆ ในการทํางาน

    5 วิธีสร้างแรงกระตุ้นดี ๆ ในการทำงาน

    5 วิธีสร้างแรงกระตุ้นดี ๆ ในการทำงาน


    เคล็ดลับสุขภาพ


    5 วิธีสร้างแรงกระตุ้นในการทำงาน (Momypedia)

              หลายคนพยายามเปลี่ยนแปลงการทำงาน เปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิต แต่ก็ตกม้าตายเพราะท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีพลังมากพอที่จะทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ใช่ว่าคนคนนั้นไม่มีเป้าหมายค่ะ แต่ระหว่างทางที่จะไปให้ถึงเป้านั้นเราเกิดท้อ สูญเสียตัวเอง และหมดไฟกันไปก่อน วันนี้เราก็เลยมี 5 วิธีสร้างแรงกระตุ้นในการทำงานมาฝากค่ะ เชื่อว่าน่าจะเป็นวิธีที่ทำให้เราตื่นตัวได้ตลอดปี
    สร้างอารมณ์ 

              ว่ากันว่าเหตุผลกับอารมณ์เป็นเรื่องที่ขัดกันเสมอ ดังนั้นปีนี้เราต้องทำให้มันคู่กันให้ได้ด้วยการสร้างอารมณ์เชิงบวกให้ตัวเองก่อนค่ะ เช่น ตั้งเป้าว่าจะมองโลกในแง่ดี แล้วก็เดินหน้าทำตามเป้าอารมณ์นั้นให้ได้

    สร้างปณิธานส่วนตัว

              ข้อนี้จำเป็นมากค่ะเพราะเราควรจะมีปณิธาน หรือสิ่งที่ย้ำเตือนความตั้งใจไว้เสมอ เช่น

              ...ฉันสวย ฉันเก่ง ฉันทำได้ทุกอย่าง
              
              ...ฉันเดินหน้าสู้แล้วจะไม่ถอย

              ...ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้

              ...ฉันมีค่าและคู่ควรกับทุกอย่างที่ฉันจะได้รับ

    สร้างบทสมมติ

              เลี่ยงไม่ได้ค่ะที่บางครั้งเราจะรู้สึกท้อ เหนื่อย หรือรู้สึกกำลังล้มเหลว แต่ให้ลองแกล้งทำ แกล้งรู้สึกว่าเรากำลังจะประสบความสำเร็จแล้ว เราใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว จะเป็นการกระตุ้นให้เราตื่นตัวและสู้ได้อีกครั้ง

    สร้างเสียงหัวเราะ

              ถ้างานไม่เป็นไปในทิศทางที่หวัง หรือมีอุปสรรคมาขวางตรงหน้า เอาการมองโลกในแง่ดีและอารมณ์ขันเข้ามาช่วยค่ะ หามุมตลก ๆ ของสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้วหัวเราะออกมาบ้าง หรือยิ้มนิด ๆ ก็ยังดี เสียงหัวเราะจะช่วยกระตุ้นให้เรามีพลังต่อ


    เคล็ดลับสุขภาพ


    รื้อฟื้นทุกความเข้มแข็งและความสำเร็จ

              เชื่อเถอะค่ะว่าเราทุกคนมีความเข้มแข็งในตัวเองและต้องเคยประสบความสำเร็จกับงานบางอย่างมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย ทันทีที่รู้สึกหมดกำลังใจ แรงเฉื่อยเริ่มมากจนท้อ ลองมองกลับไปที่ความสำเร็จที่เคยผ่านมาค่ะ แล้วคุณจะพบกับความเข้มแข็งที่จะทำให้รู้สึกว่าเราเคยทำได้แล้ว ครั้งนี้เราก็ต้องทำได้ ซึ่งนั่นจะทำให้คุณรวมข้อ 1–ข้อ 4 ข้างต้นกลับมาอีกครั้งแล้วมีพลังทำงานอย่างมีแรงบันดาลใจต่อไปค่ะ

              ทุกอย่างเริ่มที่ใจค่ะ ถ้าเราตั้งใจดี มีเป้าหมาย และบอกสิ่งนั้นกับตัวเองอยู่ทุกวัน เชื่อเถอะว่าเราจะมีแรงบันดาลใจ มีแรงกระตุ้นให้ทำงานได้จนถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน