วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

ตํานาน ริบบิ้นสีเหลือง ตราบใดที่ยังมีความหวัง ก็ยังมีหนทาง

ตำนาน ‘ริบบิ้นสีเหลือง’… ตราบใดที่ยังมีความหวัง ก็ยังมีหนทาง

ริบบิ้นสีเหลือง … ตราบใดที่ยังมีความหวัง ก็ยังมีหนทาง


จากเหตุการณ์เรือข้ามฟาก Sewol ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่กำลังเดินทางไปทัศนศึกษา ณ เกาะเจจูได้อับปางลง เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเป็นจำนวนมาก (อ่านข่าวเก่า) จนถึงวันนี้เป็นระยะเวลานับสัปดาห์แล้วที่ยังคงมีผู้สูญหายจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้

ริบบิ้นสีเหลือง

ริบบิ้นสีเหลือง

ไม่นานหลังจากเหตุการณ์อันเศร้าสลดเกิดขึ้น หลายคนคงเริ่มเห็นชาวเกาหลีอัพโหลดภาพของ ‘ริบบิ้นสีเหลือง’ ผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก รวมทั้งเหล่าคนดัง อาทิ G-Dragon, คิม แจจุง และ ซูยอง Girls’ Generation ก็ได้ร่วมแคมเปญ‘ริบบิ้นสีเหลือง’ เพื่อแสดงออกถึงความหวังว่าผู้สูญหายจะเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย… ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า ความเชื่อเรื่อง ‘ริบบิ้นสีเหลือง’ มีความเป็นมาอย่างไร?

ริบบิ้นสีเหลือง

ตำนานเรื่อง ‘ริบบิ้นสีเหลือง’ เกิดขึ้นเมื่อปี 1971 และถือกำเนิดจากฝั่งตะวันตก

ชายผู้หนึ่งเพิ่งพ้นโทษและกำลังเดินทางกลับบ้าน บนรถบัสระหว่างทางกลับ เขาได้เล่าให้คนบนรถฟังว่า ตนเองเพิ่งพ้นโทษจำคุกและกำลังกลับบ้าน แต่เวลา 3 ปีช่างนานนัก เขาไม่รู้ว่าหญิงคนรักจะยังปักใจกับเขาหรือไม่ จึงได้เขียนจดหมายไปหาเธอ และบอกเธอว่าถ้าเธอยังต้องการเขาและยังอยากให้เขากลับบ้าน ก็ขอให้ผูกริบบิ้นสีเหลืองเอาไว้ที่ต้นโอ๊คริมทาง 1 เส้น แต่ถ้าเขาไม่เห็นริบบิ้นสีเหลืองที่ต้นโอ๊ค นั่นก็แสดงว่าเธอไม่ต้องการเขาอีกต่อไปแล้ว เขาก็พร้อมจะเข้าใจ และยินดีที่จะจากไปอย่างเงียบๆ

จนกระทั่งรถขับผ่านบริเวณทิวแถวของต้นโอ๊คมากขึ้นเท่าไหร่ ใจของชายผู้นั้นก็เต้นแทบจะระเบิดออกมา เขาหลับตาสนิทและบอกคนขับว่าช่วยดูทางแทนเขา เพราะกลัวเหลือเกินว่าจะไม่เห็นริบบิ้นใดๆ

แต่ตอนนั้นเอง… ผู้โดยสารทั้งคันรถก็โห่ร้องด้วยความดีใจ เพราะริมทางนั้น มีริบบิ้นสีเหลืองนับร้อยเส้นผูกไว้ที่ต้นโอ๊คทุกกิ่งก้านละลานตา เพื่อรอคอยและต้อนรับการกลับมาของเขา

เหตุการณ์นั้นยังเป็นต้นกำเนิดของบทเพลงอมตะเพลงหนึ่งที่มีชื่อว่า Tie a Yellow Ribbon

I’m comin’ home, I’ve done my time
Now I’ve got to know what is and isn’t mine
If you received my letter telling you I’d soon be free
Then you’ll know just what to do if you still want me
If you still want me

Just tie a yellow ribbon ’round the old oak tree
It’s been way too long, do you still want me?
If I don’t see a ribbon ’round the old oak tree
I’ll just stay on the bus, forget about us, put the blame on me
If I don’t see a yellow ribbon ’round the old oak tree

Bus driver, please look for me
‘Cause I couldn’t bear to see what I might see
I’m really still in prison and my love, he holds the key
A simple yellow ribbon’s all I need to set me free
I wrote and told him please…

Just tie a yellow ribbon ’round the old oak tree
It’s been way too long, do you still want me?
If I don’t see a ribbon ’round the old oak tree
I’ll just stay on the bus, forget about us, put the blame on me
If I don’t see a ribbon ’round the old oak tree

Tie a yellow ribbon ’round that old oak tree
I’m coming home

Now the whole dang bus is cheerin’ and I can’t believe
I see a hundred yellow ribbons tied ’round the old oak tree
I’m comin’ home, I’m glad you waited for me
Tie a yellow ribbon ’round the old oak tree
Tie a ribbon ’round the old oak tree
Tie a ribbon ’round the old oak tree
Tie a yellow ribbon if you still want me

Tie a yellow ribbon ’round the old oak tree
Tie a yellow ribbon ’round the old oak tree



ริบบิ้นสีเหลือง

อย่างไรก็ตาม ขอให้ทิว ‘ริบบิ้นสีเหลือง’ ที่ชาวเกาหลีต่างผูกไว้ทั่วทั้งโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก สร้างปาฏิหาริย์และพาเหล่าผู้สูญหายกลับบ้านอย่างปลอดภัย… ตราบใดที่ยังมีความหวัง ก็ยังมีหนทาง สมดั่งตำนาน ‘ริบบิ้นสีเหลือง’


ข่าวนี้เผยแพร่โดยมิวสิคเอ็มไทย — http://music.mthai.com — หากนำข่าวไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วย 

images by free.in.th

มิวสิคเอ็มไทย โดนใจ ทุก Social ติดตามความเคลื่อนไหว ได้ทาง facebook MThaimusic – Twitter@mthaimusic – Youtube musicmthaitube – Instagram : @musicmthai

ติดต่อทีมงานมิวสิคเอ็มไทย music@mthai.com 

ไม่มีความคิดเห็น: