วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

กินอย่างไร เมื่อเป็นโรคกระเพาะ

แต่ก่อนนี้ถ้าใครเป็นโรคกระเพาะ แต่เมื่อรู้สาเหตุที่แท้จริงแล้วโรคกระเพาะรักษาไม่ยาก 2-4
160621907

สาเหตุของโรคกระเพาะ
ก่อนนี้ความเครียดกินอาหารผิดเวลาอยู่เป็นนิจ ที่มีลักษณะเหมือนเกลียวจุกคอร์กชื่อว่าเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไรเรียกย่อ ๆ ว่าเอช. ไพโลไร
คือการใช้ยาแก้ปวดประเภทแอสไพริน "เอ็นเสดส์" (NSAIDS) = Nonsteroidal ป้องกัน imflamatory) และในคนที่เป็นโรคอยู่แล้ว
โภชนบำบัดสำหรับโรคกระเพาะ
สมัยก่อนเมื่อยังไม่ทราบสาเหตุของโรคกระเพาะ อาหารที่ใช้รักษาโรคกระเพาะคือซิปปี้ไดเอ็ท (อาหาร Sippy) ซึ่งใช้นมและอาหารประเภทครีมเป็นหลัก ซึ่งแพทย์สมัยนั้นเชื่อว่าจะช่วยเคลือบแผลในกระเพาะหรือลำไส้ แต่ปัจจุบันพบว่าอาหารดังกล่าวกลับทำให้อาการโรคกระเพาะแย่ลง เนื่องจากแคลเซียมในนมกระตุ้นการหลั่งของกรดทำให้แผลในกระเพาะหายช้าเข้าไปอีก
ปัจจุบันอาหารไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะช่วยรักษาโรคกระเพาะ แต่จะใช้ยาเป็นหลัก อาหารจะเป็นปัจจัยเสริมที่ใช้รักษาร่วมกับยาเพื่อลดอาการ
หลักโภชนบำบัดในปัจจุบันคือ เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน
  • กินอาหารเป็นเวลากินน้อย ๆ วันละ 4 ถึง 5 มื้อไม่กินจุบจิบโดยเฉพาะก่อนนอน เพราะทุกครั้งที่อาหารตกถึงท้องจะกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะ
  • ปริมาณอาหารไม่กินอิ่มมากเกินไป มิฉะนั้นจะมีกรดหลั่งออกมามากเกินควร
  • เลี่ยงการดื่มนมบ่อยๆนอกจากนี้ผู้ที่มีปัญหาการย่อยน้ำตาลในนม (แลคโตส) อาจเกิดอาการท้องอืดมีแกสปวดท้อง ท้องเสียได้เพราะระบบย่อยขาดเอ็นไซม์แลคเตสซึ่งใช้ย่อยน้ำตาลนม
  • ระวังการใช้เครื่องเทศรสเผ็ดจัดเช่นพริกต่างๆ ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะบอกได้
  • กินอาหารที่มีกากใยสูงเช่นผักผลไม้และธัญพืชโดยเฉพาะใยอาหารประเภทละลายน้ำเช่นกล้วยมะละกอแอปเปิลซึ่งมีใยอาหารชนิดเพคตินมาก ทนต่อกรดได้ดี
  • กินผักใบเขียวจัดให้มากขึ้น ช่วยให้แผลในกระเพาะหายเร็วขึ้นป้องกันเลือดออกในกระเพาะช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร ผักสีเขียวจัดบางชนิดเช่นบร็อคโคลีมีสารซัลโฟราเฟนซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ นักวิจัยพบว่าสารสะกัดซัลโฟราเฟน และอาจป้องกันมะเร็งได้
  • ผักผลไม้ที่มีเบตาแคโรทีนสูงเช่นแครอทฟักทองผักใบเขียวจัดแคนตาลูปช่วยป้องกันเยื่อบุกระเพาะและลำไส้เร่งให้แผลหายเร็วขึ้น การกินผักผลไม้ยังช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซี ซึ่งช่วยให้แผลในกระเพาะหายเร็วและป้องกันการติดเชื้อ
  • เลี่ยงกาแฟรวมทั้งชนิดไม่มีคาเฟอีน แม้จะน้อยกว่ากาแฟก็ตาม
  • เลี่ยงน้ำส้มน้ำมะนาวถ้าทำให้ไม่สบายท้อง เนื่องจากกรดไหลย้อนกลับทางทำให้เกิดอาการแสบร้อนในลิ้นปี่
  • เลี่ยงอาหารทอดอาหารเค็มและน้ำอัดลม
  • เลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนจัด ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอาการทำให้ไม่สบายท้องได้
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะเบียร์และไวน์เพราะจะทำให้กระเพาะหลั่งกรดได้มากขึ้น
  • งดบุหรี่
  • เคี้ยวช้าๆในเวลากินไม่เร่งรีบ
  • ควรสังเกตตัวเองว่าอาหารชนิดใดที่ก่อให้เกิดปัญหาในระบบย่อย เพราะการตอบสนองต่ออาหารในแต่ละคนไม่เหมือนกัน แม้แต่อาหารชนิดเดียวกันถ้ากินคนละเวลาร่างกายก็จะตอบสนองต่างกัน
  • หลีกเลี่ยงความเครียด โดยทำให้หายช้า166220023
ข้อควรระวังไม่ควรใช้ยาลดกรดมากเกินควร แคลเซียมวิดามินบี 12
กินอาหารให้หลากหลายเป็นเวลาสม่ำเสมอไม่เร่งรีบในการกิน อย่าทำตัวเป็นคนช่างเครียดออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ตัวอย่างเมนูอาหารโรคกระเพาะ
  • เช้าน้ำแอ๊ปเปิ้ล 180 ซีซี / ขนมปังโฮวีท 2 แผ่น / เนยเทียม 2 ช้อนชา / แยม 1 ช้อนโต๊ะ / นมถั่วเหลือง / ชาเขียว
  • ว่างเช้าแอ๊ปเปิ้ล 1 ผลเล็ก / ขนมปังกรอบจืด 4 แผ่นเล็ก / นมขาดไขมัน 120 ซี.ซี.
  • เที่ยงซุปบร็อคโคลี 1 ถ้วยเล็ก / ข้าวโพดต้ม 1/2 ถ้วยตวง / ข้าวสวย 1-2 ทัพพี / ปลาซาบะย่าง
    1/2 ถ้วยตวง / แตงโม / น้ำ
  • ว่างบ่ายกล้วยหอม 1 ผลเล็กไอศครีมโยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 สกูป
  • เย็นสลัดผัก 1 ถ้วยตวง + น้ำสลัดไขมันต่ำ / เนื้ออกไก่อบ 1/2 อก / ข้าวซ้อมมือ 1/2 ถ้วยตวงคลุกเนยเทียม 1 ช้อนชา / 
    ขนมปังดินเนอร์โรล 1 ชิ้น / หน่อไม้ฝรั่งลวก 1/2 ถ้วยตวง / แคนตาลูป 1 / 4 ลูก / น้ำ

ไม่มีความคิดเห็น: