วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557

ข้อคิดดี ๆ ในการคบเพื่อน

อยากเป็นเพื่อนซี้ปึ้กแบบนี้ตลอดไป... นี่เลยวิธีที่จะทำให้คุณเป็นเบอร์หนึ่งไม่เป็นสองรองใครในใจเพื่อน
friend
++
1...อย่าลืมวันเกิดเพื่อนซี้เด็ดขาด(ถ้าไม่ซี้ลืมได้)
ทำอย่างไรก็ได้เพื่อกันลืม เช่น วงกลมวันเกิดเพื่อนในปฏิทินเขียนติดไว้หน้ากระจก หรือใช้วิธีไฮเทคด้วยการบันทึกไว้ในมือถือ เมื่อถึงวันเกิดเพื่อน เจ้ามือถือก็จะส่งเสียงเตือนให้คุณรู้เอง

++
2...ซื่อสัตย์ต่อมิตรภาพ
อย่างทิ้งเพื่อนสุดซี้ของคุณให้เดียวดาย แม้ว่าคุณอยากมีเพื่อนใหม่ที่เลิศเลอแค่ไหน เพราะคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า เพื่อนใหม่จะนิสัยดีเหมือนเพื่อนซี้หน้าเดิม หากอยากมีเพื่อนใหม่หรืออยากเข้ากลุ่มใหม่ ก็ดึงเพื่อนของคุณไปด้วยสิ

++
3...อย่านินทาเพื่อนทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เพราะการกระทำแบบนี้ไม่เจ๋งสักนิด และคุณเองนั่นแหละที่อาจโดนขับออกจากกลุ่ม

++
4...หากเพื่อนกำลังเศร้าพยายามทำให้เธอยิ้มได้
เช่น ปลอบใจ หรือจะกอดก็ไม่ว่าเพราะการสัมผัสทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นได้ ถ้ายังไม่ได้ผล คิดดูซิว่ากิจกรรมที่เพื่อนคุณชอบคืออะไร แล้วชวนไปทำด้วยกัน

++
5...คงไม่มีใครชอบทะเลาะกับเพื่อน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ คุณเองควรเป็นฝ่ายยุติเรื่องราว

ให้เหตุผลที่ดีกับเพื่อนว่า คุณต้องการอะไรและถามด้วยว่าเพื่อน ไม่เข้าใจคุณตรงจุดไหนจะได้หาวิธีประนีประนอม

++
6...คุณต้องพร้อมให้การแนะนำอย่างตรงไปตรงมา
แต่ใช้คำพูดที่ไม่หักหาญน้ำใจ หากเพื่อนคุณใส่เสื้อเขียวตัวพอง กางเกนขาบานสีแดง ซึ่งดูเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากเล้าไก่ คุณคงไม่บอกเธอไปตรงๆแบบนั้น อาจบอกเธอว่าเธอใส่เสื้อยืด กางเกนขายีนดูดีกว่าเยอะเลย

++
7...เชื่อใจเพื่อนซี้แสนดีของคุณเถอะ
ถ้าคุณไว้ใจเธอถึงขั้นบอกความลับของคุณกับเธอแล้ว แน่ใจได้ว่าเธอจะเชื่อใจและพูดกับคุณได้ทุกเรื่องเช่นกัน

++
8...ถ้าเพื่อนคิดว่ากำลังเล่าเรื่องตลกที่สุดให้คุณฟัง
แต่คุณไม่ขำ ขอให้หัวเราะกับมุขฝืดๆนั้นหน่อย เพราะอย่างน้อยเพื่อนคุณก็ได้พยายามแล้ว

++
9...เรื่องบางเรื่องที่เพื่อนเล่าให้ฟัง

แล้วอยากให้คุณรู้เพียงคนเดียว อย่าไปเล่าให้คนอื่นฟังเชียวนะ เพราะเขาอาจเห็นเป็นเรื่องสนุก นำไปเล่าต่อ ทีนี้แหละ ใครต่อใครคงรู้เรื่องเพื่อนคุณกันหมด

เป็นไงค่ะได้ความรู้กันบ้างรึป่าว แต่ก็แล้วแต่วิจาราณญาณของแต่ละบุคคลว่าจะเห็นด้วยกับวิธีนั้นๆหรือไม่

วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557

โรคเหงาระบาดได้


โรคเหงาระบาดได้

โรคเหงาระบาดได้

โรคเหงา

โรคเหงาระบาดได้ (ไทยโพสต์)


          นักวิจัยในสหรัฐพบว่า ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวเดียวดายสามารถแพร่ระบาดไปยังคนอื่นได้ ทำนองเดียวกับไข้หวัดใหญ่  ซึ่งผู้หญิงมีโอกาสมากกว่าผู้ชายที่จะ "ติดเชื้อ" นี้

          งาน วิจัยของทีมจากมหาวิทยาลัยชิคาโก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก พบว่า คนที่เหงามักแพร่ความรู้สึกซึมเศร้าแก่คนรอบตัว ซึ่งในที่สุดคนเหล่านี้จะแยกตัวออกจากสังคม

          จอห์น คาซีออพโป นักจิตวิทยาของ ม.ชิคาโก หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า คนที่เหงาจะแพร่เชื้อไปยังเพื่อน ๆ  ที่ยังหลงเหลืออยู่ ขณะเจ้าตัวเองก็จะมีเพื่อนน้อยลง ๆ เพื่อนที่เหลือนั้นก็จะพากันเหงา และสูญเสียเพื่อนเช่นกัน

          เนื่อง จากความเหงาเกี่ยวข้องกับทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ  ซึ่งทำให้อายุของคนเราสั้นลง เขาบอกว่าเราควรตระหนักถึงเรื่องนี้ และช่วยเหลือคนที่เหงาก่อนที่คนเหล่านั้นจะปลีกตัวออกจากสังคม

          งาน ชิ้นนี้ได้ศึกษาข้อมูลในโครงการติดตามโรคหัวใจ ซึ่งได้ศึกษาความเสี่ยงของโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดในคนไข้กว่า  5,000 รายนับแต่ปี 2491 ซึ่งโครงการนี้ได้ขยายรวมถึงคนรุ่นที่สองอีก 5,124 คน

          นักวิจัยพบว่าเมื่อคนเรารู้สึกเหงา ก็จะรู้สึกเชื่อใจไว้ใจคนอื่นน้อยลง และทำให้ยากแก่การสร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้น

          นัก วิจัยบอกว่า โดยธรรมชาติแล้วสังคมมักกีดกันคนแบบนี้ออกไป ซึ่งพบได้ในการทดลองกับลิง ฉะนั้น จึงต้องหาทางรับมือกับความเหงาก่อนที่จะแพร่เชื้อไปยังคนอื่น

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

จริงป่ะ ? ผลวิจัยชี้ จิตสํานึกดีมักจะเกิดในช่วงเช้า

    จริงป่ะ? ผลวิจัยชี้ จิตสำนึกดีมักจะเกิดในช่วงเช้า

    จริงป่ะ? ผลวิจัยชี้ จิตสำนึกดีมักจะเกิดในช่วงเช้า


     
    อ่านหนังสือ


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
                
              มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า สังคมจะสงบสุขและน่าอยู่มากขึ้นหากทุกคนในสังคมมีจิตสำนึกที่ดี และมีความซื่อสัตย์ เราก็เลยได้เห็นโครงการดี ๆ อย่างโตไปไม่โกงออกมารณรงค์ รวมทั้งปลูกจิตสำนึกดีให้ลูกหลานเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้นำผลวิจัยเรื่องความซื่อสัตย์และจิตสำนึกที่ดีของคนจากเว็บไซต์ newserมาบอกต่อให้ได้รู้กันด้วยค่ะ และผลวิจัยนี้เขาบอกเอาไว้ว่า คนเราจะมีจิตสำนึกที่ดี และความซื่อสัตย์ในระดับที่สูงสุด ก็ตอนช่วงเช้านี่ล่ะ
     
              โดยผลวิจัยชิ้นนี้เป็นของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และมหาวิทยาลัยยูทาห์ ซึ่งเขาได้ขอให้อาสาสมัครทำแบบทดสอบความรู้ด้านคณิตศาสตร์ ผลปรากฏว่า อาสาสมัครบางส่วนทำแบบทดสอบไม่ได้เลย ไม่ว่าจะทำแบบทดสอบในช่วงเช้า หรือช่วงบ่ายก็ตาม แต่พอทีมวิจัยบอกข้อมูลเพิ่มเติมไปว่า ทุก ๆ ข้อที่ทำถูก จะได้ผลตอบแทนเป็นเงิน 5 เซนต์ ทุกคนกลับมีความกระตือรือร้นอยากจะขอดูคะแนน และต้องการจะทำแบบทดสอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ก็แน่นอนว่า คะแนนของแต่ละคนกระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ทีมวิจัยก็สรุปออกมาว่า คะแนนที่เพิ่มขึ้น มาจากเทคนิคการโกงกว่า 20-50% เลยทีเดียว

                
    โกงข้อสอบ

              จากผลการทดลองในครั้งนี้ ก็มีสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าเราจะมีระดับจิตสำนึกดี และความซื่อสัตย์ค่อนข้างสูง เนื่องมาจากพลังงานร่างกายยังเต็มเปี่ยม แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ร่างกายได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกพอสมควร ระดับพลังงานและความยับยั้งชั่งใจจะถดถอยลงไป นอกจากนี้การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นเหตุให้ระดับความซื่อสัตย์ และสำนึกดีในตัวเราน้อยลงด้วยนะคะ
     
              ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า ระยะเวลาและความพร้อมของร่างกายก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับจิตสำนึกที่ดี และความซื่อสัตย์ของเราไม่น้อยเลยเหมือนกัน แต่ไม่ว่าอย่างไร ความสามารถในการยับยั้งชั่งใจไม่คดโกง หรือซิกแซ็กหลบหลีก ก็ยังคงขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของจิตใจเราเป็นส่วนใหญ่อยู่ดีล่ะเนอะ

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

สุดยอดสมุนไพรและพืช 15 ชนิด ที่ช่วยในการทําความสะอาดระบบไหลเวืยนของเลือด

สุดยอดสมุนไพรและพืช 15 ชนิด ที่ช่วยในการทำความสะอาดระบบไหลเวียนของเลือด

 
 สมุนไพรและพืช ช่วยในการทำความสะอาดระบบไหลเวียนเลือดได้อย่างไร !!


ิblood system

การใช้ชีวิตของเราในปัจจุบันพบเจอแต่สารพิษและสารเคมีที่ทำให้เข้ามาสะสมอยู่ในระบบไหลเวียนเลือดของร่างกาย
มนุษย์  ของเสียเหล่านี้สร้างมาจากภายในร่างกาย หรือสารเคมีที่เราได้รับผ่านทางอาหาร ทางอากาศหายใจ ยาที่เรา
บริโภค 
เครื่องสำอาง หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน
โดยทั่วไปร่างกายของมนุษย์จะมีกลไกในการกำจัดของเสียด้วยตนเอง โดยมีระบบการฟอกเลือดอย่างต่อเนื่องเพื่อกำจัดสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และเพื่อรักษาระบบร่างกายให้คงที่ ซึ่งไต ตับ ลำไส้ ปอด และผิวหนัง คือระบบหลักของการฟอกเลือดในร่างกายมนุษย์
การบริโภคอาหารบางชนิดจะมีส่วนช่วยให้อวัยวะภายในเหล่านี้สามารถฟอกสารพิษออกจากกระแสเลือดได้มากขึ้น 
ช่วยหลีกเลี่ยงการสะสมของสารพิษ และลดการเกิดโรค ดังนั้นการทำเลือดให้สะอาดจะช่วยลดการทำงานของไต ตับ
ลำไส้ 
และผิวหนังในการกำจัดสารพิษและช่วยหลีกเลี่ยงการสะสมของสารพิษในร่างการอีกด้วย


สุดยอดอาหารและสมุนไพร 15 ชนิดที่ช่วยล้างให้เลือดสะอาด

garlic2garlic3
1. กระเทียม (Garlic)  กระเทียมดิบอุดมไปด้วยกำมะถัน (ซัลเฟอร์) และแร่ธาตุจำเป็นที่จะช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย
โดยไปกระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์ที่ใช้ในกระบวนการกำจัดสารพิษออกจากกระแสเลือด นอกจากนั้นกระเทียมยังช่วยให้ลำไส้ปลอดจากแบคทีเรีย ปรสิต และไวรัสที่มีผลเสียต่อร่างกาย

dandelion1
2. Dandelion  พืชซึ่งใช้รักษาโรคตับมายาวนาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารอื่นๆที่ช่วยกำจัดสารพิษออกจากระบบทางเดินอาหารและกำจัดสารอนุมูลอิสระ ใบสด dandelion  หรือชาจากราก dandelion ช่วยกระตุ้นให้ตับ และตับอ่อนไปดึงสารพิษออกจากกระแสเลือด

3. แอปเปิ้ล (Apple)  อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กากใย และสารขับพิษจากธรรมชาติ สารประกอบที่พบในแอปเปิ้ล
กระตุ้นการผลิตน้ำดี และช่วยตับขจัดสารพิษ แอปเปิ้ลมีกากใยเพคตินที่ละลายได้ในปริมาณมาก ซึ่งกากใยเหล่านี้จะไป
จับกับคลอเรสเตอรอล และโลหะหนักเพื่อล้างเลือดและลำไส้

4. หัวบีท (Beet)  อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ หัวบีทเป็นผักทางเลือกที่ดีที่จะป้องกันร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ และกระตุ้นตับให้สามารถกำจัดสารพิษออกจากกระแสเลือดได้มากขึ้น

5. พาสเลย์ (Pasley)  พาสเลย์ ทำหน้าที่เป็นเหมือนสารขับปัสสาวะซึ่งช่วยให้ไตทำงานได้เป็นปกติ และขับสารพิษออกทางปัสสาวะได้มากขึ้น

carrotcarrot2carrot3
6. แครอท (Carrot)  แครอทอุดมไปด้วยวิตามิน (A, B6, C และ K) โพแทสเซียม และกลูตาไธโอน ซึ่งจะช่วยให้ตับทำหน้าที่กำจัดโปรตีนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในแครอทดิบ เพราะแครอทที่สุกแล้วกลูตาไธโอนจะถูกทำลายไป

spinach1cabbagebroccolikale
7. ผักใบเขียว (Leafy green)  ผักใบเขียว เช่น ผักโขม กะหล่ำปลี บรอคโคลี่ และคะน้า อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยล้างร่างกายได้ทั้งหมด การเพิ่มปริมาณผักใบเขียวในมื้ออาหารเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีขึ้น เพราะผักเหล่านี้เต็มไปด้วยกากใยที่จะช่วยล้างระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ผักใบเขียวยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอื่นๆอย่างมาก

8. บรอคโคลี่เพาะงอก (Broccoli Sprout)  บรอคโคลี่เพาะงอกนั้นมีคุณสมบัติกำจัดสารพิษดีเยี่ยมมากกว่าบรอคโคลี่ โดยมีสาร sulfurophane ที่จะใช้กำจัดสารพิษมากกว่าถึง 20 เท่า 

lemon
9. เลมอน (Lemon)  อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ เลมอนจะช่วยกระตุ้นตับในการกำจัดสารพิษ การดื่มน้ำเลมอนอุ่นๆในตอนเช้า เพื่อทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่างและปล่อยเอนไซม์ออกมาเพื่อเปลี่ยนสารพิษให้อยู่ในรูปสารประกอบที่ละลายน้ำ ซึ่งทำให้ขับออกทางปัสสาวะได้ง่าย นอกจากนี้เลมอนยังอุดมไปด้วยวิตามินซี  วิตามินที่ร่างกายจำเป็นจะต้องใช้ในการผลิตโปรตีนกำจัดสารพิษในตับ และกลูตาไธโอน


10. เมล็ดแฟล็กซ์ (Flax seed)  ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นสำหรับร่างกาย “โอเมกา 3” ซึ่งช่วยร่างกายกำจัดน้ำตาลในเลือด และยิ่งไปกว่านั้นเมล็ดแฟกซ์มีกากใยสูงซึ่งจะช่วยจับ และกำจัดสารพิษได้ในปริมาณมาก

turmeric4turmeric3turmeric2
11. ขมิ้นชัน (Turmeric)  ขมิ้นชัน ราชินีของเครื่องเทศ ใช้เป็นยาอายุรเวทมายาวนานในการรักษาตับ และระบบย่อยอาหาร สารออกฤทธิ์ที่สำคัญ คือ Curcumin นั้นช่วยเร่งระบบกำจัดสารพิษของร่างกายให้เร็วขึ้น

กะเพรา
12. เบซิล (Basil) หรือพืชจำพวกโหระพา กะเพรา แมงลัก   ช่วยเพิ่มการกำจัดสารพิษของตับ และไต  มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร ภาวะติดเชื้อ และทำงานเหมือนการขับปัสสาวะเพื่อกำจัดของเสีย

13. บลูเบอร์รี่ (Blueberries)  บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งของโลกที่มีอานุภาพสูง และยอดเยี่ยมมากที่สุดในการบำบัดโรค อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และดีมากในการทำให้เลือดปราศจากสารพิษและสารอนุมูลอิสระ

14. อโวคาโด (Avocado)  เป็นพืชที่ดีเยี่ยมต่อร่างกาย เพราะช่วยลดคลอเรสเตอรอล ลดความดันเลือด และมีปริมาณกลูตาไธโอนสูง ซึ่งช่วยกำจัดสารพิษและสารก่อมะเร็งในตับ

15. ผักชี (Cilantro or Coriander)  ผักชีช่วยขจัดปรอทและโลหะหนักอื่นๆซึ่งเข้ามาอยู่ในกระแสโลหิตของร่างกายโดยการรับประทานอาหาร หรือการหายใจเอาอากาศที่มีมลภาวะเข้าไป
สิ่งสำคัญที่สามารถจะช่วยร่างกายในการชะล้างสารพิษที่ลืมไม่ได้คือ การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ และอีกประการคือ
การพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะในขณะที่หลับ ร่างกายจะมีเวลาล้างและกำจัดสารพิษได้เองโดยธรรมชาติ

ในขณะที่เราอยู่กับเทคโนโลยีและความก้าวหน้าที่มนุษย์สร้างขึ้น สุดท้ายแล้วความสุขที่สุดของชีวิตก็คือการที่ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งเรารับสิ่งเหล่านี้ได้จากธรรมชาติบำบัด ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่สะอาด พืชผักเกษตรอินทรีย์ หรือน้ำที่บริสุทธิ์นั่นเอง ธรรมชาติสร้างชีวิต เรารับ แล้วสิ่งที่เราสร้าง… ธรรมชาติได้รับชีวิตเช่นเราแล้วหรือยัง??

ที่มา    http://www.healthyandnaturalworld.com/best-herbs-and-foods-to-cleanse-your-blood/ (17/03/2014)